นายแเดนนี่ รอย นักวิจัยอาวุโส และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง จากสถาบันด้านการศึกษาวิจัยด้านต่างๆ (East-West Center) วิเคราะห์ข้อมูลทางความมั่นคงว่า ความจริงแล้วสหรัฐฯ ยังคงยึดนโยบายในเรื่องของ FOIP หรือ free and open indo- pacific ที่เน้นเรื่องของ เสรี และการเปิดกว้างในภูมิภาคอินโดแปซิฟิค โดยให้ความสำคัญกับประเทศพันธมิตรในการส่งเสริมคุณค่าเรื่องเสรีภาพให้เกิดขึ้นตั้งแต่การค้าเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน เสรีภาพภาพในความแสดงความคิดเห็นดังนั้น ถ้ามองมิติความมั่นคง
โดยไม่นำ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาเกี่ยวข้อง จะเห็นว่า นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ 10 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อ ทรัมป์ เข้ามา ทำให้เกิดประเด็นบางอย่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น ทรัมป์ ไม่ได้มีปัญหากับผู้นำที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้งมีความใกล้ชิดส่วนตัวกับผู้นำรัสเซีย ตุรกี จีน ในขณะเดียวกันก็ละเลยประเทศที่เป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนาน เช่น ยุโรปตะวันตก ออสเตรเลีย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้ารัฐบาลไทยเข้าถึง ทรัมป์ ได้โดยตรง ก็มีโอกาสพัฒนาเรื่องอื่นๆได้มากขึ้น เพราะ ทรัมป์ ไม่ได้สนใจว่าเป็นเผด็จการหรือไม่"ความจริงความสัมพันธ์ในลักษณะนี้มีมาตั้งแต่ช่วงในสงครามเย็น ที่เรียกว่า friendly dictator คือคบได้ ถ้าเผด็จการนั้นเป็นมิตรกับเรา แม้ไม่ได้มีประชาธิปไตยเต็มใบ แต่มีภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ก็จะผูกสัมพันธ์กับประเทศนั้นได้อยู่ทั้งนี้การผูกสัมพันธ์กับประเทศไทย ก็ถูกมองเป็นสองทาง โดยกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย มองว่า สหรัฐฯ ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับไทย เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย แต่อีกกลุ่ม เห็นว่า ไทยมีความสำคัญ ต้องให้มาอยู่ฝั่งเดียวกัน เพราะไม่อยากให้ไปอยู่กับจีน ทำให้เห็นปรากฏการณ์ที่ว่า ทรัมป์ สามารถเชิญ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ไปเยือนทำเนียบขาว จากนั้นก็ออกรายงานเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งปรากฏว่าไทยก็สอบไม่ผ่านเรื่องสิทธิมนุษยชน"เมื่อถามว่า สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน จะพัฒนาต่อไปอย่างไร / นายแดนนี่ รอย กล่าวว่า สหรัฐฯ และ จีน มีเป้าหมายชัดเจนในการมีอิทธิพลในภูมิภาค แต่สองฝ่ายมีรายละเอียดที่ต่างกัน คิดว่าอีก 20 ปีข้างหน้าความตึงเครียดในโลกยังมีอยู่ซึ่งภัยคุกคามอย่างจีน ต่างจากโซเวียตในช่วงสงครามเย็นอย่างมาก เพราะจีนมีความแข็งแกร่งกว่า จากภายในที่มีอยู่จริง และการอ้างเขตดินแดนของจีนก็กว้างกว่าที่โซเวียตเคยทำ ซึ่งปัจจุบันจีนยังมีกองทัพในทางเอเซียที่แข็งแกร่งกว่าด้วย สำหรับการตอบสนองของสหรัฐฯ ต่อปัญหาในทะเลจีนใต้ในปัจจุบันนั้น เห็นว่า ยังไม่ได้ผล เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มากกว่า และประเทศจีนกำลังบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเองในการได้อาณาเขตมากขึ้น แต่สหรัฐฯ ก็พยายามที่จะมีสิทธิในการเดินเรือในน่านน้ำต่อไปอย่างเสรีอย่างถึงที่สุด