ผู้ชุมนุมประท้วงฮ่องกง ได้รับอนุญาตจากทางการครั้งแรก

แต่ขณะเดียวกัน ข้อมูลของฝ่ายตำรวจก็บอกว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวานมีอยู่ประมาณ 1 แสน 8 หมื่น 3 พันคน
แม้ว่าจะมีคนมาร่วมการประท้วงเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วก็การประท้วงก็สงบเรียบร้อยดี แม้ว่าจะมีกลุ่มคนชุดดำจะออกอาละวาดทุบทำลายร้านค้า ธนาคาร และร้านอาหารที่สนับสนุนรัฐบาลจีนอยู่หลายแห่ง รวมถึงการจุดไฟเผาบริเวณทางเข้าศาล 2 แห่งก็ตาม
เรื่องนี้ ทำให้ทางผู้จัดการชุมนุมเองก็ตัดสินใจยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เนื่องจากเห็นว่ามีความตึงเครียดมากขึ้นบริเวณปลายทางของการเดินขบวน จากวิคตอเรียพาร์ค ไปจนถึงถนนชาเตอร์ ในเขตเซ็นทรัล เมื่อตำรวจปราบจลาจลจำนวนมากเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วงชุดดำสวมหน้ากาก
แกนนำการชุมนุมบอกว่า การมีตำรวจจำนวนมากในเขตเซ็นทรัลทำให้ผู้ประท้วงรู้สึกเครียด และรู้สึกว่าถูกข่มขู่ และได้เรียกร้องขอคำอธิบายจากตำรวจว่าทำไมจึงต้องมาปิดถนนหลายสายในเขตเซ็นทรัล การกระทำที่ไม่จำเป็นนี้ทำให้ผู้ประท้วงรู้สึกว่าโดนปิดล้อม เพราะเมื่อหลายคนเดินมาถึงจุดหมายปลายทางแล้วก็อยากจะกลับออกไป แต่ว่ามีการปิดถนน ขณะที่การอนุญาตให้มีการชุมนุมได้นั้น ให้เวลาจนถึงเวลา 4 ทุ่มนอกจากนั้นเจ้าหน้าที่หลายคนยังไม่มีความเป็นมืออาชีพ มีการใช้ภาษาที่ไม่สุภาพและข่มขู่ผู้ประท้วง
เขายอมรับว่าแม้จำนวนผู้มาชุมนุมจะน้อยกว่าครั้งก่อน ๆ หลายครั้ง แต่จำนวน 8 แสนก็ยังคงถือว่าสูงมาก ดังนั้น นางแคร์รี่ หล่ำจึงควรใช้ข้อได้เปรียบนี้ในปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง
ในส่วนของรัฐบาลก็ออกแถลงการณ์ แสดงความหวังว่าทั้งชุมชน จะทำงานร่วมกันเพื่อยุติความรุนแรง ปกป้องหลักนิติธรรม และกลับมาร่วมกันสร้างความเป็นระเบียบของสังคม และหวังว่าจะสามารถหาทางตกลงกันได้ผ่านการเจรจา ในส่วนของเรื่องการเผาศาล ทางการก็บอกว่าทุกคนควรต้องเคารพต่อศาล ส่วนในกรณีที่มีการกล่าวหาตำรวจ ทางการก็บอกว่าตำรวจมีหน้าที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย และถ้าใครมีเรื่องร้อง เรียนต่อตำรวจ ก็มีกระบวนการที่ระบุเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้ว