svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์ชี้จ่ายเงินประกันรายได้ให้เกษตรกรแล้ว 1.84 หมื่นล้านบาท

09 ธันวาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พาณิชย์" ชูผลงานโครงการประกันรายได้มีเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ได้รับประโยชน์แล้ว 1.69 ล้านครัวเรือน รับเงินส่วนต่างรวม 1.84 หมื่นล้านบาท หลัง "จุรินทร์"ผลักดันสำเร็จเดินหน้าโครงการได้ครบตามเป้า 5 ชนิดภายในปีนี้ เผยปาล์มน้ำมันงวดที่ 3 อาจไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง หลังราคาพุ่ง ส่วนข้าวโพด รอจ่ายส่วนต่างงวดแรก 20 ธ.ค.นี้

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการประกันรายได้สินค้าที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ 4ชนิด คือ ปาล์มน้ำมัน ข้าว มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถผลักดันโครงการได้ครบทุกตัวตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการทำให้สำเร็จภายในปี 2562และหากรวมสินค้ายางพารา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ก็จะถือว่าโครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด ที่เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้สามารถทำได้ครบทุกตัวแล้ว

 

พาณิชย์ชี้จ่ายเงินประกันรายได้ให้เกษตรกรแล้ว 1.84 หมื่นล้านบาท


ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินโครงการตั้งแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการมีเกษตรกรได้รับการโอนเงินส่วนต่างแล้วจากโครงการประกันรายได้พืชเกษตร 4ชนิด คือ ปาล์มน้ำมัน ข้าว ยางพารา และมันสำปะหลังรวม 1,692,576ครัวเรือน มีวงเงินที่จ่ายส่วนต่างชดเชยให้กับเกษตรกรรวม 18,468ล้านบาท แยกเป็นปาล์มน้ำมัน 543,543 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 2,596ล้านบาท ข้าว 542,854 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 13,051ล้านบาท ยางพารา 564,176 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 1,898ล้านบาท และมันสำปะหลัง 42,003 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 924ล้านบาท

 

สำหรับข้าวเพื่อให้การจ่ายชดเชยส่วนต่างมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ราคาข้าวในปัจจุบัน กรมฯได้ปรับระยะเวลาการพิจารณาการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงใหม่จากเดิมจะพิจารณาทุกๆ 15 วัน เป็นพิจารณาทุก 7วัน เพื่อให้ราคาสะท้อนกับราคาที่แท้จริง เพราะบางช่วงราคาข้าวปรับขึ้นลงเร็วซึ่งจะทำให้เกษตรกรไม่เสียโอกาส จากการได้รับเงินชดเชยส่วนต่าง โดยงวดที่ 5ได้จ่ายส่วนต่าง 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 2,453.59บาท , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,661.08บาท , ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 517.47บาท และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 404.75บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ไม่จ่าย เพราะราคายังสูงกว่าราคาประกัน

 

               ส่วนปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มว่าการจ่ายเงินส่วนต่างในงวดที่ 3 ในช่วงปีใหม่รัฐไม่ต้องจ่ายส่วนต่างในงวดนี้ เพราะขณะนี้ ราคาตลาดเกิน 4บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้ทำให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่คุ้มต้นทุนอยู่แล้ว

 

               ขณะที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.)ได้มีมติให้ความเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดโดยประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก. ละ 8.50บาท ที่ความชื้น 14.5% ครัวเรือนละไม่เกิน 30ไร่ ปลูกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2562เป็นต้นไป โดยจะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในวันที่ 11 ธ.ค.2562และหาก ครม. อนุมัติ จะจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกได้ทันทีในวันที่ 20ธ.ค.2562 

 

สำหรับยางพาราซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรฯ ขณะนี้การจ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 1ยังคงดำเนินการอยู่ เพราะเงื่อนไขการได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้จะต้องมีการตรวจสวนยางว่ามีการปลูกจริงหรือไม่ ทำยางชนิดใดจากนั้นถึงจะส่งรายชื่อไปให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)จ่ายเงินเข้าบัญชี ซึ่งนายจุรินทร์ ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯได้เร่งรัดให้มีการดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วแล้วและมั่นใจว่าการจ่ายส่วนต่างงวดที่ 2 ในเดือนม.ค.2563 จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก

logoline