นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ และ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงข่าวกรณี น.ส.พรพิมล ธรรมสาร นายขจิตร ชัยนิยม และ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โหวตสวนมติพรรคกรณีตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจของรัฐบาล คสช. และมาตรา 44
โดยนายสมพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางพรรคได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส.ส.ทั้ง 3 คนแล้ว โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เป็นประธานคณะกรรมการและจะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 7-10 วัน โดยจะเรียก ส.ส.ทั้ง 3 เข้ามาให้เหตุผลถึงการโหวตสวนมติพรรค เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะส่งเรื่องให้หัวหน้าทำการพิจารณาต่อไป ในเบื้องต้นหากพบว่า มีความผิดจะมีโทษหนักสุดคือการไล่ออกจากพรรค หรือ มิให้ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งต่อไป ทั้งนี้หากพบว่ามีการซื้อขายในการโหวตนั้นก็จะดำเนินการตามกฎหมายอาญา
เมื่อถามว่าตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.สามารถโหวตได้โดยอิสระ และต้องไม่ถูกพรรคครอบงำนั้น นายชูศักดิ์ เผยว่า พรรคมีแนวทางของพรรคที่ ส.ส.ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เอกสิทธิ์ก็เป็นในส่วนเอกสิทธิ์แต่ ส.ส. ที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของพรรคด้วย
หลังจากนี้ทางพรรคมองว่าการซื้องูเห่านั้น น่าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทางพรรคจึงต้องมีมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดงูเห่าของพรรคขึ้นมาอีก
นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำของรัฐบาลที่มีการซื้องูเห่านั้น แสดงให้เห็นถึงความกลัวในการตรวจสอบของรัฐบาล ถึงขั้นกล้าทำในสิ่งที่น่าละอายขัดต่อความรู้สึกของประชาขน ต่อความถูกต้องชอบธรรม ไม่สะทกสะท้านต่อความผิด และยังมีข่าวอีกว่ามีการใช้เงินจำนวน 7-8 หลักเพื่อโน้มน้าวชักจูงให้มีมติสนับสนุนฝ่ายรัฐเพื่อไม่ให้ตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ การซื้องูเห่าในแต่ละพรรคจึงถือว่าเป็นการขาดวินัยไร้จิตสำนึกของรัฐบาล
ส่วนกรณีพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่มีการโหวตสวนมติ 4 คนนั้น นายภูมิธรรม เปปิดเผยว่า ได้มีการหารือกันบ้างแล้ว โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการหารืออีกครั้งใน วิปฝ่ายค้าน เชื่อว่าขณะนี้พรรคเศรษฐกิจใหม่ก็กำลังตรวจสอบคนของตัวเองอยู่เช่นกัน