svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทีเส็บ จับมือการบินไทยรุกตลาดไมซ์เอเชียแปซิฟิก

04 ธันวาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทีเส็บ จับมือการบินไทย และไทยสมายล์ แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ APAC MaxiMICE เจาะตลาดไมซ์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กระตุ้นเศรษฐกิจมอบสิทธิประโยชน์ พร้อมตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) ตั้งเป้าร่วมมือดึงนักเดินทางไมซ์คุณภาพ เจาะกลุ่มการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้าไทยเพิ่มอีก 10,000 คน

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บ ร่วมกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ร่วมจัดทำแคมเปญ APAC MaxiMICE ส่งเสริมการขายและการตลาด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจำนวนนักเดินทางไมซ์เข้าสู่ประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายส่วนแบ่งตลาด และขยายฐานลูกค้าองค์กรในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC ซึ่งเป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentive)

ทีเส็บ จับมือการบินไทยรุกตลาดไมซ์เอเชียแปซิฟิก


"ทีเส็บมีแผนดำเนินงานสนับสนุนการจัดงานไมซ์ เร่งเจาะกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของลูกค้าองค์กร (Corporate Market) เพื่อดึงงานที่มีคุณภาพให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งช่วยประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์อันดีให้ประเทศไทยในฐานะจุดหมายหลักของการจัดงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก"

ตลาดไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC เป็นตลาดที่มีความสำคัญและครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย โดยปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 ถึง กันยายน 2562) มีภาพรวมนักเดินทางไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาเยือนประเทศไทยจำนวน 1,162,170 คน คิดเป็น 91.22% ของตลาดไมซ์ทั้งหมดซึ่งมีจำนวน 1,273,981 คน โดยนักเดินทางกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกมีสัดส่วนสูงถึง 56.23% หรือคิดเป็นจำนวน 653,459 คน
ก่อนหน้าในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา ทีเส็บได้เปิดตัวแคมเปญ ASEAN MaxiMICE ร่วมกับ บริษัท การบินไทยฯ เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาดในกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของลูกค้าองค์กร สำหรับ 4 ประเทศหลักในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ผลตอบรับ เป็นอย่างดี ดึงนักเดินทางไมซ์จากทั้ง 4 ประเทศเข้ามาเยือนประเทศไทยได้ทั้งสิ้นจำนวนกว่า 1,000 คน ทำรายได้เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท

และในปีงบประมาณ 2563 นี้ (ตุลาคม 2562 ถึง กันยายน 2563) ทีเส็บจึงเปิดตัวแคมเปญล่าสุด APAC MaxiMICE ขยายโครงการเจาะตลาดเชิงรุก จากเดิมในภูมิภาคอาเซียน เพิ่มครอบคลุมในตลาดหลักภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมเป็น 15 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และ อินเดีย โดยร่วมมือกับการบินไทย และไทยสมายล์ ซึ่งเป็นสายการบินในเครือ อีกทั้งเป็นสายการบินแห่งชาติ และสายการบินหลักของประเทศไทยที่มีเส้นทางการบินหลากหลายในการเข้าถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นและเพิ่มจำนวนนักเดินทางไมซ์ให้เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทยมากขึ้น โดยประมาณการว่าจะมีนักเดินทางไมซ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเดินทางเข้ามาทั้งสิ้น 10,000 คน
สำหรับแคมเปญ APAC MaxiMICE จะมอบสิทธิประโยชน์ให้กลุ่มลูกค้าองค์กรในประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ต้องการนำงานประชุมองค์กร หรือการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้ามาจัดในประเทศไทย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Silver, Gold และ Platinum สำหรับกลุ่มตั้งแต่ 40 คนขึ้นไป โดยจะต้องพำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย 2 คืน และจะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ ตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด การบริการช่องทางพิเศษตรวจคนเข้าเมือง (VIP Fast Track) หรือ MICE Lane ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ของที่ระลึก และการแสดงทางวัฒนธรรม ฯลฯ โดยสามารถติดต่อเพื่อขอรับการสนับสนุนได้ ตั้งแต่วันที่4 ธันวาคม 2562 - 31 สิงหาคม 2563 และมีช่วงเวลาการจัดงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2563

ทีเส็บ จับมือการบินไทยรุกตลาดไมซ์เอเชียแปซิฟิก


"นอกจากนี้ ทีเส็บยังได้เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแคมเปญนี้ โดยจัดกิจกรรมไทยแลนด์ไมซ์ โรดโชว์ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมตลาดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าองค์กรในตลาดออสเตรเลียและจีนในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2563 และการจัดกิจกรรมแฟมทริปในเส้นทางที่การบินไทย และไทยสมายล์ ให้บริการ รวมถึงการจัดงาน Thailand Incentive and Meeting Exchange 2020 หรือ TIME 2020 ซึ่งเป็นเวทีเชื่อมโยงธุรกิจสำหรับตลาดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลโดยเฉพาะ เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายหลักของการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก" นายจิรุตถ์ กล่าว

ด้าน นายนนท์ กลินทะ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท การบินไทยฯ และไทยสมายล์ มีความยินดีที่ได้มีความร่วมมือกับทีเส็บในการผนึกกำลังการส่งเสริมการขายและการตลาดในการจัดแคมเปญ APAC MaxiMICE เพื่อเพิ่มจำนวนนักเดินทางไมซ์เข้าสู่ประเทศไทย โดยลูกค้ากลุ่มไมซ์จากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เดินทางกับการบินไทยจำนวนมากเป็นลำดับต้นๆ


ทีเส็บ จับมือการบินไทยรุกตลาดไมซ์เอเชียแปซิฟิก


ความร่วมมือในการจัดแคมเปญ APAC MaxiMICE ระหว่างการบินไทย ไทยสมายล์ และทีเส็บ ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกการเดินทางของลูกค้ากลุ่มไมซ์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในการเดินทางเข้ามาจัดการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระตุ้นการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ยังช่วยให้เกิดการใช้จ่าย การต่อยอดสู่การท่องเที่ยวไทย รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย
โดยลูกค้าไมซ์จากแคมเปญ APAC MaxiMICE ที่เดินทางจาก 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้ามายังประเทศไทยโดยการบินไทย และไทยสมายล์ จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ บัตรโดยสารหมู่คณะราคาพิเศษ (Special Airfare) บัตรโดยสารอภินันทนาการ (Complimentary Air Ticket) สิทธิพิเศษน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมท่านละ 5 กิโลกรัม (Additional 5kg. Baggage Allowance)

สิทธิการเชิญขึ้นเครื่องบินก่อน (Priority Boarding) การจองที่นั่งสำหรับหมู่คณะ (Pre-Assigned Group Seating) การเช็คอินล่วงหน้า (Advanced Group Check-in Special) คำกล่าวต้อนรับสำหรับหมู่คณะบนเครื่อง (On Board Announcement) ที่คลุมพนักเบาะที่นั่งบนเครื่องบินติดตราสัญลักษณ์องค์กรสำหรับหมู่คณะ (Customized Seat Cover) เป็นต้น ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัท การบินไทยฯ ในฐานะผู้ให้บริการสายการบินที่มีเส้นทางครอบคลุมกว่า 46 เมือง ใน 15 ประเทศ ซึ่งสามารถรองรับการเดินทางของลูกค้าไมซ์ที่เดินทางกับการบินไทย และเชื่อมต่อเที่ยวบินกับไทยสมายล์ที่ให้บริการใน 10 เส้นทางบินภายในประเทศและเส้นทางบินระหว่างประเทศกว่า 21 เส้นทาง ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งคาดว่าในปี 2563 จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าไมซ์เข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

logoline