เปิดใจเก๋งถูกกระบะหัวร้อนชนยับ ลั่นยื่น 2 ทางเลือก หลังไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว!!

จากกรณีกล้องวงจรปิดหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้บันทึกเหตุการณ์ "รถกระบะหัวร้อน" ขับรถพุ่งชนรถเก๋งที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้าน จนทำให้ไปกระแทกรถปิกอัพที่จอดอยู่ด้านหน้าอีกได้รับความเสียหายยับเยิน ขณะที่ "นายวิชิต พลาศรี" เจ้าของรถเก๋งเผยว่า วันเกิดเหตุมีกิจกรรมสโมสรที่โรงเรียนที่ลูกตนเรียนอยู่ ตนจึงนำรถไปจอดที่บ้านเพื่อนเพื่อนั่งรถคันเดียวกัน ซึ่งสถานที่ที่ไปจอดดังกล่าว มีการระบุว่าเป็นที่สาธารณะ ใครๆ ก็จอดได้ และมีระยะห่างจากบ้านหลังตรงข้ามถึง 5 เมตร ทำให้ใส่เบรกมือเอาไว้

พี่วิชิตไปหมู่บ้านบ่อยไหม?
วิชิต : "ไม่บ่อย ครั้งนี้ไปเป็นครั้งที่สอง"
พี่จอดทิ้งไว้ตั้งแต่กี่โมง?
วิชิต : "ตั้งแต่เที่ยง เวลาเกิดเหตุก็สามทุ่มครึ่ง"
มีรถกระบะชนรถเก๋งพี่ เขามาบ้านหลังไหน?
วิชิต : "หลังเกิดเหตุถึงทราบว่าเขาเป็นเพื่อนกับบ้านหลังที่สอง"

เขาบอกยังไงถึงมาชน?
วิชิต : "เขาบอกเขาจะมาขนของ ย้ายกระถางต้นไม้ โซฟา เขาถอยหลังเข้าไม่ได้"
พี่ใส่เบรกมือหรือเปล่า?
วิชิต : "ผมใส่เบรกมือครับ ผมว่า 5 เมตรเขาถอยได้ ดูรัศมีการจอดไม่ได้บังหน้าบ้าน เลยใส่เบรกมือไว้"
เพื่อนพี่คือคันกระบะข้างหน้า ทำไมไม่ไปจอดหน้าบ้านเขา?
วิชิต : "วันนั้นมีกิจกรรม ผู้ปกครองมาเยอะ เลยเอารถมาจอดฝั่งซอยฝั่งนี้"
มารู้เรื่องตอนไหนว่ารถยับ?
วิชิต : "ช่วงสามทุ่มครึ่ง มีเพื่อนบ้านโทรมาบอกเพื่อนว่ารถโดนชน เรามาถึงประมาณ 3 ทุ่ม 40 สภาพรถถูกชนพังยับเยิน เขาบอกมีรถกระบะอีซูซุสีดำ เหมือนโฟร์วิลคันนึงพุ่งชน 2 ครั้งแล้วหนีไป กระโปรงหน้าฝาท้ายยุบหมด เป็นรถติดแก๊ส NGV ด้วย ดีที่ไม่ระเบิด"
พี่คิดไหมว่าเขาเป็นกระบะ รถเขายาวไม่น่าถอยได้?
วิชิต : "ตอนเราไปจอด ไม่มีรถอยู่หน้าบ้านเขา เราเลยไม่รู้ว่ารถเขาเป็นรถอะไร"

คุณปุ๋ย เป็นคนนำคลิปมาโพสต์ ก็โดนกระแสสังคมไปด้วย?
ปุ๋ย : "บ้านที่เกิดเหตุคือซอย 1 บ้านปุ๋ยอยู่ซอย 13 ก็ไปร่วมงานกับพี่เขา แล้วกลับมาพร้อมกัน ตอนแรกคุยกันไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ เราคุยกันมาแล้วว่าถ้าจะหลีกเลี่ยงการทะเลาะ แต่พอเห็นสภาพรถมันไม่ใช่ เพื่อนบ้านก็เห็นกันหมด แบบนี้เขาตั้งใจ เขาได้ยินเสียงมันดังสนั่นมากจนตกใจ มันจงใจแล้ว เลยพากันไปเปิดกล้องของนิติตอนนั้นเลย พอเห็นแล้วก็เอ้า บ้านที่เขาบอกว่าพยายามจะเข้าเขาเป็นคนรถเก๋งไม่ใช่เหรอ รถกระบะเป็นรถคนนอก งั้นเราก็ต้องรีบโพสต์แล้ว"
ตอนโพสต์กังวลอะไร?
ปุ๋ย : "กังวลว่าเขาชนแล้วหนีหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนนอก ไม่ได้แลกบัตรเข้ามา ไม่มีข้อมูลอะไรเขาเลย เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน เราโพสต์แค่ต้องการตัวเขาเท่านั้น"

คุณคิดว่าคนจะเข้าใจ แต่กระแสกลับมาไม่ดี?
ปุ๋ย : "ปุ๋ยเป็นคนเสพข่าวคนนึง รับได้อยู่แล้ว ตอนโพสต์ไปเรามีสติ ตั้งใจ เราได้อ่านแต่ไม่ซีเรียส ไม่เป็นผลกระทบ ส่วนมากพวกที่เข้าไปคอมเมนต์ บางคำมันหยาบคายโดยไม่สามารถพูดออกสื่อได้ ไปส่องดูก็ไม่มีตัวตน ทุกวันนี้โพสต์นี้ยังอยู่ แต่ปิดสาธารณะเอาไว้ เห็นแค่เพื่อนค่ะ"
มีส่วนไหมกับการโพสต์ไป แล้วตามตัวเจ้าของกระบะเจอ?
ปุ๋ย : "ก็ประสบความสำเร็จสำหรับเรานะ กระแสจะว่ายังไงก็เรื่องของเขา คนผิดต้องได้รับผิด"
แต่กลายเป็นเชียร์คนละฝั่ง บางคนบอกว่าพี่จอดรถผิดเอง?
ปุ๋ย : "อยากให้สังคมลองดูใหม่ หลังที่ผู้ก่อเหตุ เขาถอยได้มั้ย วงเลี้ยวมันพอมั้ย จริงๆ มันพอค่ะ มันมีสื่อเขาลงพื้นที่ไปวัดแล้ว ลองเลี้ยวเข้าเลี้ยวออกแล้ว มันเลี้ยวได้"
เราอยากบอกว่าที่เรียกร้องมันถูกต้องแล้ว?
ปุ๋ย : "ใช่ แล้วจะบอกว่าพี่ซอย 6 เคยมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ เราก็ขยับไปข้างในสุดแล้ว ไม่คิดว่าจะโหดร้ายขนาดนี้"
เขาคุยกันว่าบ้านที่เป็นเพื่อนรถกระบะ เคยมีปากเสียงกับเพื่อนพี่มาก่อน?
วิชิต : "ระยะเวลาประมาณ 4 ปีได้ เรื่องที่จอดรถนี่แหละ แต่ 4 ปีครั้งเดียวแล้วจบ จนมาเกิดเหตุ 4 เดือนย้อนหลังก่อนเกิดเหตุครั้งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม"

พี่วิชิต ได้เจอเจ้าของกระบะมาชนหรือยัง?
วิชิต : "เจอกันแล้วครับ เจอที่สน.เมื่อวานนี้ เขาก็ยอมรับผิดว่าเขาอารมณ์ร้อนไปหน่อย เขารับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนเรื่องคดีก็อยู่ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยอยู่ ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์เขามาก เขาน่าจะสำนึกแล้วล่ะ แต่สังคมที่ประณาม เขาเข้าใจว่าผมไปจอดขวางหน้าบ้าน สมควรแล้ว ทำนองนี้ จริงๆ แล้วไม่ใช่ไปจอดขวางหน้าบ้านเลย อย่างที่บอกระยะห่างประมาณ 5 เมตรได้จากหน้าบ้านเขา"
ปุ๋ย : "โซเชียลโจมตีประมาณว่าเขาบอกให้คุณขยับแล้วนี่ตั้ง 2 ชม. ทำไมไม่มาขยับ ซึ่่งมันคนละหลัง"
วิชิต : "เราเจอที่โรงพักเมื่อวาน เขานัดมา เจอครั้งแรกเขาก็เข้ามาขอโทษ เขาบอกว่ายอมรับผิด เขาอารมณ์ร้อนไปหน่อย จากวันที่เกิดเหตุจนเมื่อวานก็ระยะห่างพอสมควร อารมณ์ผมก็พอทำใจได้แล้ว ก็บอกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่เป็นไร มาคุยเรื่องการเยียวยากันว่าเป็นยังไง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป นัดไกล่เกลี่ยอีกทีวันอาทิตย์ มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายเยียวยา เขาบอกไม่พร้อมที่จะจ่ายในวันนั้น ขอเอาข้อเสนอนี้ไปคิดดูก่อน"
พี่เสนอยังไง?
วิชิต : "ผมเสนอให้ถอยคันใหม่ให้ผม ส่วนซากคุณเอาไป กับข้อเสนอที่สอง ผมขอ 5 แสน รถผมเก็บไว้"
ทำไมต้องให้เขาถอยรถให้พี่ใหม่?
วิชิต : "รถผมเป็นปี 14 มันซ่อมไม่ได้แล้ว ประกันประเมินขั้นแรก 1.2 แสนแต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ 1.2 แสน มันยับเยินขนาดนั้น ต้องนัดกันใหม่อีกรอบ"
ดูจากอารมณ์สีหน้า เขาสำนึกผิดจริงไหม?
วิชิต : "สำนึกผิดครับ แต่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว มันก็ต้องเยียวยากัน"