หากองค์ประชุมล่มอีกเป็นครั้งที่ 3 รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงปฏิเสธแล้วโยนความผิดไปให้วิปรัฐบาลเพียงเท่านั้น เพราะปัญหาจริงๆคนในพรรคพลังประชารัฐรู้ดีว่า แกนนำพรรคประกาศิต ไม่ยอมปล่อยให้มีการตั้งกรรมาธิการได้เพราะผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องถูกเรียกมาให้ข้อมูล เป็นโมเดลความพยายามแบบเดียวกับพยายามล้มโต๊ะเปลี่ยนตัวประธานกมธ.ป.ป.ช. ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน เรียกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ให้มาพบ แต่ไม่ยอมมา จนวุ่นวายมาถึงกระทั่งปัจจุบัน พรรคพลังประชารัฐขู่พรรคร่วมรัฐบาลทุกมิติ ถึงขั้นทวงสัญญาลูกผู้ชายจากพรรคร่วม
ที่หนักสุดขณะนี้ มีการสร้างกระแสข่าวลือ จะยุบสภา หลังจากที่ปล่อยข่าวเพาะฟาร์มฝากเลี้ยงงูเห่าแล้วประชาชนไม่เชื่อ ถ้าบ้านเมืองเรา ไม่สามารถเดินหน้าใช้กลไกรัฐสภาในการทำงานและตรวจสอบได้ เพียงเพื่อช่วยเหลือผู้มีอำนาจบางคนในพรรคพลังประชารัฐ แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร
"ประเทศสูญเสียโอกาสการแข่งขันจากความไม่เป็นมืออาชีพของรัฐบาลก็ถือว่าหนักแล้วแต่การสูญเสียความเชื่อมั่นเมื่อระบบตรวจสอบไม่สามารถทำงานได้จะวิกฤตกว่า และยากที่จะเยียวยา" นายอนุสรณ์ กล่าว