svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

‘เวิลด์ทัวร์ไฟนัลส์ 2019’ ผลสำคัญที่อาจชี้ชะตาโอลิมปิกเกมส์

02 ธันวาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ใกล้เข้ามาแล้วกับการแข่งขันแบดมินตัน "เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนัลส์ 2019" ศึกประชันลูกขนไก่รายการใหญ่ส่งท้ายปี ซึ่งครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะเป็นอีกหนึ่งรายการที่มีการเก็บสะสมคะแนนเพื่อเข้าไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2020 เป็นเดิมพัน

ศึกแบดมินตันรายการใหญ่ส่งท้ายปี "เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนัลส์ 2019" ทัวร์นาเมนต์ที่เฟ้นสุดยอดนักแบดมินตันที่ทำผลงานดีที่สุด 8 อันดับแรกของโลกในแต่ละประเภทมาชิงชัยกัน จะทำการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคมนี้โดยการแข่งขันในปีนี้ จะยังคงอยู่ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน เป็นปีที่ 2 ในสัญญา 4 ปี ผู้ที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรายการนี้ได้ คือคนที่เก็บคะแนนจากการแข่งขันในระดับ "บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์" ทั้งหมด 37 รายการตลอดปี ได้มากที่สุด 1-8 อันดับแรก และรายการนี้ถือว่ามีเงินรางวัลรวมสูงมากถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 45 ล้านบาท)ขณะที่ระบบการแข่งขันนั้น จากนักกีฬาที่เข้ารอบมา 8 คน/คู่ ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แข่งแบบพบกันหมด จนได้อันดับ 1-2 เข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก และรอบชิงชนะเลิศต่อไปปีนี้มีนักกีฬาไทยที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นได้ทั้งหมด 3 ประเภท (6 คน) คือ หญิงเดี่ยว "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ กับ "น้องครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, หญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิตติธรากุล-"วิว" รวินดา ประจงใจ และ คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

‘เวิลด์ทัวร์ไฟนัลส์ 2019’ ผลสำคัญที่อาจชี้ชะตาโอลิมปิกเกมส์

นอกจากนี้ยังมีรายชื่อนักกีฬาไทยที่ติดสำรองอยู่อีก 1 คนนั่นก็คือ ชายเดี่ยว "กัน" กันตภณ หวังเจริญ ย้อนอดีตไป สำหรับรายการนี้ เคยหยุดการแข่งขันไปนานถึง 7 ปีด้วยกัน โดยเว้นว่างจากการแข่งขันตั้งแต่ปี 2000 ก่อนจะกลับมาจัดอีกครั้งในปี 2008 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ต้องบอกว่านักกีฬาไทยถือว่าเป็นขาประจำสำหรับรายการนี้ เพราะทุกปีจะต้องมีนักกีฬาไทยอย่างน้อย 1 ประเภท ฝ่าด่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้ในปี 2008 นั้น มีนักกีฬาไทยผ่านเข้ามาได้ 2 ประเภท รวม 2 คู่ ก็คือคู่ผสม "เต่า" สุดเขต ประภากมล กับ "ส้ม" สราลีย์ ทุ่งทองคำ และ "ดั๊ก" ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ กับ "โอ๋" กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล โดยกุลชลายังเข้าประเภทหญิงคู่กับ "หญิง" ดวงอนงค์ อรุณเกษร อีกด้วย ขณะที่คู่ของสุดเขต-สราลีย์ทำผลงานเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้

‘เวิลด์ทัวร์ไฟนัลส์ 2019’ ผลสำคัญที่อาจชี้ชะตาโอลิมปิกเกมส์

จากนั้นในปี 2009 คือปีที่มีจำนวนนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปเล่นได้มากที่สุดคือ 6 คน/คู่ จาก 4 ประเภท โดยชายเดี่ยวเป็น "ซุปเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ หญิงเดี่ยวมี 2 คน คือ "พีช" พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข กับ "มิ้ง" สลักจิต พลสนะ ขณะที่คู่ผสม 2 คู่เดิมก็ยังคงผ่านเข้ามาเล่นได้ โดยครั้งนี้ กุลชลา กับ ดวงอนงค์ อรุณเกษร ซึ่งได้สิทธิประเภทหญิงคู่เป็นประเภทเดียวที่ทะลุถึงรอบตัดเชือกได้ในปี 2010 นับเป็นปีที่นักตบลูกขนไก่ไทยทำผลงานได้ดีที่สุด โดยจากปี 2009 มีเพียงแค่ พรทิพย์ คนเดียวที่ไม่ได้เข้ามาในปีนี้ ขณะที่ผลการแข่งขันนั้นมีบุญศักดิ์ ในประเภทชายเดี่ยว และคู่ผสมของ กุลชลา กับ ทรงพล ที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ส่วนคนที่ทำผลงานดีที่สุดคือคู่ของสุดเขต-สราลีย์ ที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ก่อนจบที่ตำแหน่งรองแชมป์ ซึ่งนี่ยังเป็นสถิตินักแบดไทยในรายการนี้ที่ดีที่สุดมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วยแม้ว่าในปี 2011 ผลงานแบดมินตันไทยอาจจะซบเซาเพราะมีแค่สุดเขต-สราลีย์ ผ่านเข้ามาเล่นและตกรอบแรกไป แต่ในปี 2012 ก็เป็นอีกปีที่ต้องจารึก เพราะนักแบดมินตันไทยผ่านเข้ามาเล่นได้ครบทุกประเภทเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว

‘เวิลด์ทัวร์ไฟนัลส์ 2019’ ผลสำคัญที่อาจชี้ชะตาโอลิมปิกเกมส์

ในประเภทชายคู่ซึ่งนักกีฬาไทยเข้ามาได้ครั้งแรกก็คือคู่ของ "เอ" มณีพงศ์ จงจิตร กับ "อาท" บดินทร์ อิสสระ ที่กอดคอกับชายเดี่ยว บุญศักดิ์ และหญิงคู่ ดวงอนงค์-กุลชลา ตกรอบแรกไปทั้งหมด แต่ในประเภทหญิงเดี่ยว "น้องเมย์" ที่ผ่านเข้ามาเล่นครั้งแรกสามารถทะลุถึงตัดเชือกได้ รวมถึงคู่ผสม "ส้ม-เต่า" ก็เข้าถึงตัดเชือกเช่นกัน

2 ปีต่อมา นักแบดมินตันไทยสามารถผ่านเข้ามาเล่นได้ แต่ก็ตกรอบแรกไปกันทั้งหมด จนในช่วงปี 2015-2017 เป็น 3 ปี ที่มีเพียง รัชนก ที่สามารถเข้าไปเล่นในรายการนี้ได้ พร้อมกับผลงานผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้ 2 ครั้งในปี 2015 กับ 2107 และตกรอบแรกในปี 2016

‘เวิลด์ทัวร์ไฟนัลส์ 2019’ ผลสำคัญที่อาจชี้ชะตาโอลิมปิกเกมส์

ส่วนผลงานของนักกีฬาไทยเมื่อปีที่แล้ว สามารถผ่านเข้าไปเล่นได้ 4 ประเภทด้วยกัน โดยชายเดี่ยว กันตภณ กับ หญิงคู่ "กิ๊ฟ-วิว" ตกรอบแรก ส่วนหญิงเดี่ยว รัชนก เข้าไปเล่นรอบตัดเชือกอีกครั้ง และพ่ายให้กับแชมป์อย่าง ปุซารา เวนกะตา สินธุ ไปกับอีกหนึ่งประเภทคือคู่ผสม เดชาพล-ทรัพย์สิรี ที่ผ่านเข้ามาเล่นเป็นครั้งแรก เข้าถึงรอบตัดเชือกได้ ก่อนจะแพ้ให้กับคู่ปรับเก่า มือ 1 ของโลก อย่าง เจิ้ง ซีเหว่ย และ หวง ย่าเฉียง ไปสำหรับปีนี้ นอกเหนือจากเรื่องของเกียรติยศกับเงินรางวัลแล้ว ต้องอย่าลืมว่านี่เป็นอีกหนึ่งรายการที่มีการเก็บสะสมคะแนนเพื่อเข้าไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในปีหน้า ซึ่งยิ่งบอกว่ามีแค่นักกีฬา 8 คน/คู่ เท่านั้นที่ได้มาเล่น ก็ยิ่งหมายความว่า 8 คนนี้มีโอกาสจะทำคะแนนหนีเพื่อนๆ ไปได้ด้วย

สำหรับนักกีฬาไทยที่ตอนนี้เรียกได้ว่าก้าวขาไป "โตเกียว 2020" ข้างหนึ่งแล้วคือ รัชนก หรือ เดชาพล-ทรัพย์สิรี มีภารกิจสำคัญคือการเก็บคะแนนตุนไว้ให้ได้มากๆ เพื่อทำอันดับให้สูงที่สุด ซึ่งจะส่งผลกับการเป็นมือวางในโอลิมปิกเกมส์ และเกี่ยวเนื่องต่อไปกับการลุ้นเหรียญรางวัล..และนั่นคือ เหรียญประวัติศาสตร์ของวงการแบดมินตันไทยด้วย

logoline