สมภารฉาวรับหญิงในคลิปเป็นหลาน

จากกรณีคลิปวงจรปิดฉาว พระปลัดกฤษฎา คุตตะธัมโม อายุ 62 ปี หรือพระครูกฤษฎา เจ้าอาวาสวัดศรีปันเงิน มีการแตะเนื้อต้องตัวเด็กผู้หญิง ทั้งลูบหัวโอบไหล่ จนชาวบ้านมีการร้องเรียนถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสม

กรณีดังกล่าว นายธีระพงษ์ อินทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วและได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสแล้ว โดยเจ้าอาวาสยอมรับว่าถูกเนื้อต้องตัวเด็กสาวตามคลิปจริงและเด็กสาวคนในคลิปนั้นเป็นหลานสาวจริง ซึ่งเป็นลูกสาวของน้องชายที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าท่านผิดจริง แต่การสัมผัสการกอดโอบเป็นการรักและเอ็นดูแบบลูกหลาน และไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ มีการนำบัตรประจำตัวประชาชนมายืนยันกับเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาฯว่าเป็นลุงหลานกันจริงและไม่ได้เจตนาเป็นอย่างอื่น
นายธีระพงษ์ กล่าวว่า ทางสำนักพระพุทธศาสนาได้มีการปรึกษากับเจ้าคณะอำเภอสันป่าตองแล้ว โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและความผิดข้อวินัยของสงฆ์ ซึ่งอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการของฆราวาสเข้ามาร่วมด้วยก็คือ ฝ่ายปกครองของอำเภอสันป่าตอง เช่นนายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน
สำหรับความผิดนั้นถ้าเป็นไปตามที่ท่านเจ้าอาวาสได้กล่าวอ้างจริงก็ไม่ถึงขั้นต้องจับสึก แต่ต้องพิจารณาดุลยพินิจของคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง ส่วนระยะเวลาดำเนินการนั้นก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเนื่องจากว่าหากปล่อยเวลานานอาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อนและอาจทำให้มีประชาชนเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
"เจ้าอาวาสเองก็เป็นพระที่ได้อุปถัมภ์เลี้ยงดูสามเณรส่งเสียตามสมควรและกำลังทรัพย์ที่ท่านมีและจากประวัติเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นพระนักพัฒนาทำให้มีคณะศรัทธาญาติโยมเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เจ้าอาวาสยินดีให้ตรวจสอบบัญชีของวัดว่าโปร่งใสหรือไม่และนำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง"นายธีระพงษ์ กล่าว

ด้านพระครูสุนทรขันติรัต เจ้าคณะอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าคณะตำบลเดินทางไปพบกับเจ้าอาวาส เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเบื้องต้นจากการสอบถามและตรวจสอบคลิปภาพ รวมทั้งการที่ทางเจ้าอาวาสได้ยืนยันว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่ในคลิปนั้นเป็นหลานแท้ๆ ตามสายเลือดของตนเอง ก็ตาม การที่พระสงฆ์ไปสัมผัสกับฆราวาสที่เป็นผู้หญิงก็ถือว่ามีความผิดทางวินัย แต่ถือว่าไม่ใช่ความผิดร้ายแรงขั้นที่จะต้องปาราชิกหรือขั้นที่จะต้องจับสึก
ทั้งนี้ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนและคาดโทษทางวินัยสงฆ์กับเจ้าวาดวัดดังกล่าวไปแล้ว พร้อมกันนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการสงฆ์เข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวโดยละเอียดอีกครั้งโดยเฉพาะเงินที่ใช้อุปการะเลี้ยงดูหลานสาว รวมทั้งการส่งเสียเลี้ยงดูเด็กด้อยโอกาสอีกกว่า 10 คนที่ทางจะเจ้าอาวาสอ้างว่าได้รับอุปถัมภ์เด็กเหล่านี้ไว้ด้วยความสงสารและให้โอกาสทางด้านการศึกษาว่าเป็นการใช้เงินของทางวัดไปในทางที่ถูกต้องหรือไม่
"ขณะเดียวกันทางเจ้าอาวาสได้ขอโทษกับทางคณะสงฆ์จังหวัดในเรื่องพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะไม่เหมาะสมในการปฏิบัติตนโดยเฉพาะหลานสาวที่มีการถูกเนื้อต้องตัวกันก็จะพยายามระมัดระวังในการปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามพระวินัยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องของศรัทธาและความเสื่อมเสียให้กับคณะสงฆ์ของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป" พระครูสุนทรขันติรัต กล่าว
อย่างไรก็ตามทางผู้สื่อข่าวก็ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อขอพูดคุยกับพระปลัดกฤษฎา คุตตธมโม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งขณะนี้พระปลัดกฤษฎา คุตตธมโม อยู่ระหว่างการเดินทางไปร่วมงานศพญาติที่ จ.นครราชสีมา ตามที่ได้บอกกับทางพระลูกวัดเอาไว้ก่อนหน้านี้