นายอัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์ที่หน้าสถานีตำรวจว่า สำหรับที่ดินตามกฎหมายถ้าเป็นที่ป่าเสื่อมโทรม ก็ต้องเข้า ส.ป.ก. และแจกให้กับชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรทำกินคนละ 50 ไร่ แต่นางสาวปารีณามีคุณสมบัติอะไร เฉพาะที่ฟาร์มไก่ที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 ซึ่งวันนี้ที่มานั้นจะมาดูทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับ ส.ป.ก. เพราะทางป่าไม้ยืนยันแล้วว่าวันนี้ที่มานั้นไม่ได้มาตรวจสอบแล้ว คือมีการบุกรุกแน่นอน แต่เหลือของ ส.ป.ก.จะต้องมาตรวจสอบให้ชัวร์ การตรวจเพื่อต้องการให้ยืนยันว่า ตกลงนางสาวปารีณาบุกรุกที่กี่ไร่แน่ ถ้าถามว่าไม่มีความผิดจะให้มาเหยียบหน้าตัวเองได้เลย ซึ่งถ้า ส.ส.สิระบอกไม่ผิด ผมกราบตีนสิระต่อหน้าคนทั้งประเทศเลย แต่ถ้าผิด ส.ส.กล้าลาออกจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ เชื่อมั่นว่ามีความผิดอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่เกษตรกร มีการครอบครองฟาร์มไก่ ดีไม่ดีจะเอาพ่อมารับผิดแทนลูกบอกว่าไปแจ้งเท็จหรือป่าว ในเอกสารพ่อไปซื้อที่ดินมาปี พ.ศ.2523 ซึ่งตามระเบียบจะนับพ.ศ. 2484 ถ้าไม่ได้เข้าปฏิรูป ส.ป.ก. ก็จะเป็นป่าสงวน แล้วเขาจะมาสู้อะไร แล้วเขาไปยื่น ป.ป.ช.เรื่องที่ดินจำนวน 1,700 ไร่ ไปอยู่ที่ไหน ถ้าขืนอุ้มรัฐบาลพัง คิดว่าท่านวราวุธ ศิลปะอาชา ท่านเป็นคนดีอยู่แล้ว คงจะไม่มาปกป้อง ต่อให้ลุงตู่ด้วยก็พังทั้งรัฐบาลถ้าขืนมาช่วยกันอุ้มปารีณา กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมายฉบับเดียวกันที่ใช้กับชาวบ้าน นี่ถ้าเป็นตาสี ยายมา คงติดคุกไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้มารังวัดใหม่หรอก แต่นี่อภิสิทธิ์เหนือชนชั้น
จริงๆคดีนี้ถ้ารัฐบาลขืนอุ้มนางสาวปารีณาไว้ ผมบอกได้เลยว่าพังทั้งรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นท่านรัฐมนตรี ธรรมนัส ท่านวราวุธ ขอให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ทำคดีนี้ตรงไปตรงมาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน อย่าไปเป็นสองมาตรฐาน ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ก็สองมาตรฐานมาเยอะแล้ว คดีของนางสาวปารีณาอย่ามีอภิสิทธิ์ชนเหนือประชาชนทั่วไป ซึ่งวันนี้ที่มาจะมาตรวจสอบร่วมกับกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. ผมเชื่อว่าวันนี้ต้องมีข้อสรุป มั่นใจว่าถ้าเอาผิดนางสาวปารีณาไม่ได้ โดยเฉพาะ ส.ส. สิระ ที่บอกว่า นางสาวปารีณาไม่ผิด เอางี้มั๊ย ถ้านางสาวปารีณาไม่ผิด ผมยอมกราบตีน ส.ส.สิระ ต่อหน้าคนทั้งประเทศ แต่ถ้าเอาผิดได้ ส.ส.สิระ กล้าลาออกจากการเป็น ส.ส.มั๊ย ผมสรุปง่ายๆไม่ได้ว่าก้าวล่วงอะไร ผมยืนยันว่าถ้ารัฐบาลหรือใครกล้ายืนยันบอกว่าไม่ผิด แม้กระทั่งลุงตู่บอกว่าไม่ผิด หรือ ลุงป้อมบอกว่าไม่ผิด ผมกล้าที่จะกราบตีนต่อหน้าคนทั้งประเทศ แต่ถ้าเอาผิดได้กล้าลาออกจากการเป็นรัฐบาลหรือไม่
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น คปต. กล่าวที่หน้าฟาร์มไก่ ว่า เป็นอีกวันที่ได้ลงมารังวัดตามที่นางสาวปารีณาได้ทำหนังสือขอไป เลยต้องมาติดตามดูการทำงานของทางป่าไม้และ ส.ป.ก. ซึ่งคาดว่าทาง ส.ป.ก.จะลงพื้นที่ด้วย โดยจะดูว่าเขาจะตรวจเต็มพื้นที่หรือไม่ และตรวจได้มากแค่ไหนคงต้องติดตามดูกัน และจะดูเรื่องการสรุปผลต่อวันอย่างไร เหมือนเมื่อวันที่ 24 พย. ที่ผ่านมา หลังตรวจสอบแล้วก็จะแถลงข่าวให้รู้ของแต่ละหน่วยงาน
ส่วนตัวไม่ได้สนใจว่าเป็น ส.ป.ก. เพราะเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ไม่ได้ อำนาจในการตรวจสอบลงโทษนั้นยังเป็นไปตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 กับ พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เท่านั้น การที่จะเอาผิดกับคนที่บุกรุกจะมีจำนวนกี่ไร่นั้นจะมีกฎหมายอยู่ 2 พระราชบัญญัตินี้เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ส.ป.ก.เลย ส่วนอายุความนั้นตราบใดที่ยังมีการบุกรุกครอบครองก็มีอายุความเอาผิดได้ตลอดเลย ถึงแม้จะสละการครอบครองออกไปก็ยังมีอายุความต่อไปอีก 15 ปี ในการที่จะเอาผิด เป็นความผิดทางอาญาเท่านั้น แล้วเรื่องของนางสาวปารีณานั้นทางรัฐมนตรีถึงกับลงมากำกับดูเอง แต่ทีชาวบ้านถูกป่าไม้จับ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้ครอบครองที่เลย แค่ไปเช้าเย็นกลับ ไปหาของป่า เจอเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับถูกดำเนินคดี ไม่เห็นมีสิทธิพิเศษรอลงอาญา ศาลตัดสินจำคุกหมด ซึ่งที่ดินได้ถูกนำไปสร้างโรงเลี้ยงไก่กว่า 50 โรง แต่ป่าไม้ไม่เข้ามาตรวจสอบในเมื่อพื้นที่ติดกันเกิน 500ไร่ ทำไมไม่รายงาน ถือว่าเข้าข่ายละเว้นเรียบร้อยแล้ว เพราะหลายปีแล้ว และจะพยายามเอาที่ของรัฐมาให้เป็น ส.ป.ก. อีก นางสาวปารีณาครอบครองที่ดินเกิน 25 ไร่ โทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี ถูกปรับ 150,000 บาท ผมท้าเลยว่าเลขา ส.ป.ก. หรืออธิบดีป่าไม้ถ้าผมพูดผิด ผมขอให้ดำเนินคดีกับผม ต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศเลย