โดยจะเริ่มลดค่าผ่านทางตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 6 มีนาคม 2563 เพื่อเป็นการลดความแออัดบริเวณหน้าด่าน และจูงใจให้คนหันมาชำระค่าผ่านทางด้วยระบบอัตโนมัติมากขึ้น
ทั้งนี้ล่าสุดได้ร่วมกับทรู มันนี่เปิดบริการสมัครบัตร Easy Pass ผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ โดยจะจัดส่งอุปกรณ์ Easy Pass ให้ถึงบ้านและไม่เก็บ ค่าธรรมเนียมบัตร ถึงวันที่ 13 ก.พ. 2563 คาดว่าจะทำให้คนมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 10 - 15% จากฐานลูกค้าของทรู มันนี่มีอยู่ประมาณ 8.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตามกทพ.เตรียมนำระบบชำระเงินผ่านบัตรแทนเงินสดรูปแบบบัตร EMV (Euro/ MasterCard และ Visa)สามารถใช้ชำระค่าทางด่วนได้แบบแตะบัตรที่ช่องเก็บเงินค่าผ่านทางแบบ Touch & Go ซึ่งเป็นการใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าผ่านทางแล้วตัดรวมยอดทั้งหมดในช่วงสิ้นเดือน คล้ายกับว่าสามารถใช้บริการทางด่วนได้ก่อนแล้วชำระเงินในภายหลัง โดยจะนำร่องใช้ในทางด่วนเส้นทางแรกคือ ทางด่วนกาญจนาภิเษก ในช่วงเดือน ม.ค. 2563 นี้
ก่อนขยายผลไปใช้ในทางด่วนทุกสายทาง ซึ่งจะเริ่มกับธนาคารกรุงไทยก่อนจะขยายไปใช้ได้กับบัตรเครดิตของทุกสถาบันการเงิน โดยจะติดตั้งเครื่องอ่านทั้งในช่องเก็บเงินสดและช่อง Easy Pass ทั้งหมดนี้เป็นการนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้เพื่อแก้ปัญหารถติดหน้าด่าน ตลอดจนประชาชนสามารถใช้บัตร EMVเชื่อมต่อการเดินทางชำระค่าโดยสารสาธารณะทั้งระบบ อาทิ รถไฟฟ้า รถเมล์ ทางด่วนและเรือในอนาคตอีกด้วย
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้่ยังเห็นทิศทางที่ดีของปริมาณการขยายตัวของผู้ใช้เพิ่มขึ้นราว 1-2% โดยเตรียมศึกษาแนวทางการลงทุนทางด่วนในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ สปป.ลาว ซึ่งมีแผนพัฒนาทางด่วนจำนวนมาก ดังนั้นจึงสนใจพัฒนาทางด่วนข้ามชายแดนไทย-ลาว ในเขตภาคอีสาน และยังเป็นการเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ
ขณะที่การพัฒนาทางด่วนในรอบ 10 ปีข้างหน้าจะเพิ่มโครงข่ายทางด่วนราว 140 กิโลเมตร(กม.) โดยเน้นการลงทุนขยายทางด่วนในต่างจังหวัดมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท อาทิ ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 14,000 ล้านบาท โครงการต่อขยายทางด่วนอุดรรัถยา-พระนครศรีอยุธยา 42 กม. วงเงินลงทุน 31,000 หมื่นล้านบาท โครงการต่อขยายทางด่วนสายฉลองรัชช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ระยะทาง 20 กม. วงเงินลงทุน 20,000 ล้านบาท
รวมถึงโครงการทางด่วนในจังหวัดเชียงใหม่และขอนแก่น วงเงินลงทุนราว 50,000-60,000 ล้านบาท ตลอดจนการต่อขยายทางด่วนบูรพาวิถี-บายพาสเส้นทางชลบุรี วงเงินราว 7,000 ล้านบาท เป็นต้น
นายสุชาติ กล่าวถึง ความคืบหน้าโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก มูลค่า 30,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างประมูล โดยเตรียมประกาศชื่อผู้ชนะสัญญา 1 และ 3 ในช่วงเดือน ธ.ค.ไปพร้อมกับเปิดประมูลและเคลียร์ข้อพิพาททางกฎหมายในสัญญาที่เหลือ คาดจะลงนามได้ทุกสัญญาในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2563 ก่อนเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปี 2563 ระยะเวลาก่อสร้าง 3-4 ปี ซึ่งจะเป็นโครงข่ายทางพิเศษที่เชื่อมโยง การเดินทางในแนวรัศมีระหว่างกรุงเทพมหานครกับพื้นที่ทางด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจากจังหวัดในภาคใต้เข้าสู่เมืองหลวง