ทีมสูบน้ำถ้ำหลวง แจงฉากไล่กลับนครปฐม ในหนัง The Cave นางนอน เกิดขึ้นจริง

เพราะบทบางส่วนไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้หลายคนรับไม่ได้ หนังเรื่องนี้น่าจะสร้างความสามัคคีให้กับคนในโลกได้ เพราะเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับความสามัคคี แม้ผู้กำกับภาพยนตร์จะอธิบายว่าแก่นของเรื่องพยายามนำเสนอให้เห็นการทำงานของทีมกู้ภัย 'จิม วอร์นี' นักดำน้ำชาวเบลเยียม

โดยภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงสำหรับ The Cave นางนอน กำกับโดย ทอม วอลเลอร์ ซึ่งเริ่มฉายเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา โดยเป็นภารกิจปฏิบัติการช่วย 13 ทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตที่ไปดูหนังเรื่องนี้ก็ต่างติด #TheCaveนางนอน และรีวิวหนังเรื่องนี้ และส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นมีความกังวลว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะโดนแบนด้วย เพราะในเรื่องจะชี้ให้เห็นถึงความเรียลของหนัง ระบบการทำงานต่างๆ ที่คนไทยดูแล้วต้องบอกว่าหน้าชากันไปเป็นแถว

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นดราม่าเกิดขึ้นหลังจากที่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ยอมรับไม่สบายใจและเสียความรู้สึกกับเนื้อหาบางส่วนในภาพยนตร์ "THE CAVE นางนอน" ในฉากที่มีการล้อเลียนข้าราชการไทยในหนัง ในขณะที่ผู้กำกับ ทอม วอลเลอร์ ก็ออกมาโต้ตอบชี้แจงทันควันว่า ท่านผู้ว่าฯ นั่งดูหนังอยู่แค่ 3 นาทีเท่านั้น
ด้าน อ.อดิสรณ์ ศิรินันทนาพร ผู้ประสานงานนำเครื่องสูบน้ำเข้าสู่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย ที่ล่าสุดได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว บอกว่าประโยคที่โดนไล่ให้ไปเก่งที่นครปฐมในหนังนั้นเป็นเรื่องจริง โดยระบุว่า ทีมตนได้มีความพยายามทุกอย่าง ยอมทิ้งงานไว้ข้างหลัง โดยมีเป้าหมายเดียวคือได้ช่วยทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดในถ้ำ แม้หน่วยงานต่างๆ จะมีเครื่องสูบน้ำแล้ว แต่เรามองว่าไม่มีประสิทธิภาพพอ เราไปถึงถ้ำหลวงตั้งแต่ 5 วันแรกที่ติดถ้ำ แต่กว่าจะได้ลงมือทำงานจริงๆ ก็ต้องรอถึง 3 วัน เพราะระบบราชการที่เราต้องฝ่าฟัน