"ททท.ในฐานะบทบาทหลักในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยตระหนักถึงเรื่องนี้โดยได้ทำปฏิญญา "ลดโลกเลอะ" และในโอกาสที่ ททท. ครบรอบ 60 ปีในปี 2563 ททท.มีแนวคิดและให้ความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (ResponsibleTourism) โดยได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและได้ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวร่วมกันรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ลดการสร้างภาระขยะในแหล่งท่องเที่ยวพร้อมกันนี้ยังได้กำหนดเป้าหมายลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ลดลงร้อยละ50 ภายในปี 2563ลดขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastics) อาทิหลอด ฝาครอบแก้ว ถุง กล่องอาหารพร้อมทั้งส่งเสริมการใช้วัสดุสำหรับทดแทนพลาสติกและภาชนะที่สามารถใช้ซ้ำได้ เช่นการใช้ถุงผ้า กระบอกน้ำ กล่องข้าวพกพา หลอดดูดน้ำจากวัสดุธรรมชาติ การใช้ผ้าเช็ดหน้าเพื่อไม่สร้างภาระในการกำจัดให้กับแหล่งท่องเที่ยวและชุมชน อีกทั้ง ยังช่วยรักษา ความสวยงามให้คงอยู่ตลอดไป"
ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ร่วมกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเทศบาลเมืองพัทยา จัดทำโครงการ"ลดโลกเลอะ x รักษ์ปันสุข"ด้วยการรวมพลังและความร่วมมือในการลดใช้พลาสติก และหมุนเวียนใช้ให้เกิดประโยชน์โดยททท. และบางจากฯ ขอเชิญชวนนักเดินทางร่วมบริจาคขวด PET ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อนำมาสร้างสรรค์งานประติมากรรมรูป"เต่ามะเฟืองแม่ลูก" สัตว์สงวนที่ได้รับผลกระทบจากขยะพลาสติก ขนาด 8x8เมตร ณ บริเวณริมชายหาดจอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี เป็นระยะเวลา 6เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 - มิถุนายน 2563เพื่อเป็นสัญลักษณ์รณรงค์การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโดยจะจัดงานเปิดตัวประติมากรรมอย่างเป็นทางการในวันที่ 18ธันวาคมนี้
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัชประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯเน้นการนำนวัตกรรมมาเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสร้างความยั่งยืน ยึดแนว BCG Economy Model สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเน้น Green Economy (เศรษฐกิจสีเขียว)มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นกรอบใหญ่ ครอบคลุม Bio Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ) เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และ CircularEconomy (เศรษฐกิจหมุนเวียน) ที่ใช้วัสดุจากผลิตภัณฑ์ชีวภาพหรือวัสดุหมุนเวียนโดยได้ใช้แนวคิดนี้ในทุกกระบวนการธุรกิจของบริษัทฯ ได้แก่การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20S และ ไฮพรีเมียมดีเซล S ที่ได้มาตรฐานEuro 5 รวมทั้งการริเริ่มใช้แก้ว ฝา และหลอด ที่ย่อยสลายได้ 100% ในร้านอินทนิลทุกสาขา เป็นต้น นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้ริเริ่มโครงการ "รักษ์ ปัน สุข"จัดให้สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็นจุดรวบรวมขวด PET นำไปรีไซเคิลเป็นเส้นใยผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อสาธารณประโยชน์โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ส่งมอบหมวกกันแดดผลิตจากเส้นใยรีไซเคิลจากขวดพลาสติกPET ให้กับกรุงเทพมหานครเพื่อนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ด้านรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะของกทม. จำนวน 50เขต รวมจำนวน 11,000 ใบ
ในโอกาสครบรอบ 35ปีบางจากฯ บริษัทฯ ได้ต่อยอดโครงการรักษ์ ปัน สุข ด้วยการร่วมมือกับ ททท. จัดทำโครงการ "ลดโลกเลอะ x รักษ์ปันสุข"เพื่อรณรงค์การลดขยะพลาสติกกับกลุ่มนักเดินทาง โดยจัดจุดรวบรวมและ รับบริจาคขวดน้ำดื่ม PET ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ชลบุรี ระยองจันทบุรี จำนวน 262จุด เพื่อนำขวด PET ไปสร้างประติมากรรมรูปเต่ามะเฟืองแม่ลูกพร้อมนิทรรศการให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเวลา 6เดือน หลังจากนั้นจะนำขวดพลาสติกทั้งหมดไปรีไซเคิลผลิตเป็นหมวกกันแดดเพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ดูแลรักษาความสะอาดในเมืองพัทยานำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
"การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกทุกคนจะต้องร่วมมือกันลดการใช้พลาสติกทุกชนิดอย่างจริงจัง ลดการเกิดขยะจากต้นทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกใช้สิ่งของด้วยการ Reduce Reuse - Recycle โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว(Single - use plastics) เริ่มจากตัวเราในองค์กร เช่นการไม่ใช้หลอด / ขวดพลาสติก ในการประชุม การใช้แก้วชีวภาพ และการลดขยะพลาสติกผมจึงขอเชิญชวนลูกค้าบางจาก นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปร่วมนำขวด PET ใช้แล้วมาบริจาคเพื่อร่วมลดขยะพลาสติก ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และแบ่งปันความสุขให้สังคม ช่วยรักษาชีวิตของเต่าทะเล และสัตว์ทะเลอื่นๆให้คงอยู่ตามธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานในอนาคต" นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและถือเป็นส่วนหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก : EECซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศโดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ในทุกรูปแบบทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชม. และครอบคลุมทุกอายุ ด้วยเหตุนี้พัทยาจึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการจัดการปัญหาขยะในทะเลโดยตรง ซึ่งส่งผลกระทบกับสัตว์ทะเลโดยตรงดังที่มีข่าวการเสียชีวิตของสัตว์ทะเลจำนวนมากจากขยะพลาสติกไม่ว่าจะเป็นเต่าทะเลพะยูน ที่พบว่าเสียชีวิตจากการกลืนกินพลาสติกเข้าไป
"ในส่วนของเมืองพัทยาเองเล็งเห็นความสำคัญของการลดขยะเป็นพันธกิจลำดับต้นๆที่เมืองพัทยากำลังดำเนินงานอยู่แล้วพัทยาจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดสรรพื้นที่ในการติดตั้ง ประติมากรรม"เต่ายักษ์" บริเวณโค้งดงตาน หาดจอมเทียน เมืองพัทยา ซึ่งเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าประติมากรรมชิ้นนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจและสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติรวมไปถึงชาวพัทยาทุกคนได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างจิตสำนึกเรื่องการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบร่วมมือกันดูแลชายหาดเมืองพัทยาให้สะอาดสวยงาม ลดการใช้ทรัพยากรลดขยะพลาสติกให้ได้มากที่สุด"