เมื่อเวลา16.00 น. วันที่26 พฤศจิกายน พลตำรวจตรีอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบเพิ่มเติมบ้านในซอยท่าข้าม 28 ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุนายศิระ สมเดช หรือ กาย ฆ่าหั่นศพ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ ผู้เป็นแม่ ก่อนจะใช้ปืน.38 ยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังการเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุประมาณ 20 นาที ว่าจากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดเชื่อได้ว่าลูกเป็นคนลงมือก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้แน่นอน ไม่น่าจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง เพราะจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. จนถึงวันนี้ 25 ไม่พบบุคคลอื่นเข้าออกบ้าน นอกจากเจ้าของบ้าน 2 คนแม่ลูกนี้ ส่วนประเด็นที่ว่า นายศิระ ผู้เป็นลูกชายทำคนเดียวได้หรือไม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชื่อว่าน่าจะทำเพียงคนเดียวเพราะระยะเวลาที่เกิดเหตุ เกิดตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถึงเวลาเที่ยงของอีกวัน ก่อนจะมีผู้มาพบศพ ซึ่งเวลาในการชำแหละศพก็มากพอสมควร เชื่อว่าน่าจะใช้มีดหั่นแล้วใช้คอนตอกซ้ำ
ส่วนพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ใช้ในการหั่นศพคือห้องน้ำ เนื่องจากตำรวจได้ใช้สารเรืองแสงในการตรวจสอบพบมีคาบเลือดอยู่ในนบริเวณดังกล่าว
ส่วนประเด็นสงสัยที่ตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุเร็วนั้น เนื่องจาก น.ส.วรนุช วงษ์ชัย เพื่อนของน.ส.ยุรีย์ ผู้ตาย รู้จักกับตำรวจที่อาศัยในชุมชนแห่งนี้จึงเรียกมาตรวจสอบด้วย ซึ่งตำรวจที่อยู่ในขณะเกิดเหตุให้ข้อมูลชัดเจนว่าเห็นนายศิระ ลูกชายของผู้ตาย ใช้อาวุธปืนจ่อศรีษะและยิงตัวเองตาย
หลังจากนี้ตำรวจจะเรียกพยานที่อยู่ข้างบ้านมาให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากมีการอ้างว่าได้ยินเสียงคล้ายการสับชิ้นเนื้อในช่วงคืนก่อนพบศพ
สอดคล้องกับหนึ่งในพยานซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงหลังเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องกายได้โทรศัพท์มาปรับทุกข์ กรณีมีปัญหาเรื่องเกม โดยไม่สามารถหาทางออกได้ ลักษณะคล้ายติดหนี้ในเกมตัวเอง จึงแนะนำให้ไปหารือกับแม่โดยตรง เพราะอาจจะสามารถช่วยเหลือได้ ส่วนตัวเชื่อว่าหลังจากคุยกับตัวเองแล้ว น้องกายอาจจะไปคุยกับแม่ตามที่แนะนำแล้วกลับโดนแม่ตำหนิ ทำให้น้องกายสติหลุด จนถึงขั้นลงมือทำร้ายแม่จนเสียชีวิต ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนยังเคยเจอน้องกายทะเลาะกับแม่จนสติหลุดมาแล้วครั้งหนึ่ง ถึงขั้นลากท่อนเหล็กมาจะทุบตีแม่ แต่โชคดีที่ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ และสามารถห้ามปรามไว้ได้ก่อน ทำให้ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น โดยหลังจากนั้นจึงพูดคุยกับมารดาน้องกายว่า ควรพาน้องกายไปพบแพทย์ กระทั่งครอบครัวได้พาน้องกายไปหาหมอที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้เรียกพยานมาสอบแล้ว4ปาก พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 เปิดเผยว่า ได้มีการเก็บดีเอ็นเอ คราบเขม่าปืนจากพยานทั้งสองคนที่เข้าไปด้วย รวมถึงจะสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงพยานทั้งสองคนในประเด็นที่สังคมสงสัยให้คลี่คลายทุกประเด็น นอกจากนี้จะต้องไปสอบปากคำแพทย์รพ.สมเด็จเจ้าพระยาที่จ่ายยา ว่าอาการป่วยของผู้ตายถึงขั้นไหนจะตัองพิสูจน์ทราบ