เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลศิริราช ฯ เข้าตรวจสอบบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอยท่าข้าม 28 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. หลังได้รับแจ้งว่าพบศพถูกหั่นซุกไว้ในตู้เย็น และ มีผู้บาดเจ็บใช้อาวุธปืนยิงที่ศีรษะตัวเอง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ปลูกติดกัน ตรวจสอบภายในบ้านพบผู้บาดเจ็บเป็น ชายไม่ทราบชื่อ นักเรียนเทคแห่งหนึ่ง วัย 20 ปี สภาพถูกยิงที่ศีรษะ นอนจมกองเลือด มีอาวุธปืนสั้น ลูกโม่ ขนาด.38 ตกอยู่ด้านขวาของผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกหั่นแยก คอ แขน 2 ข้าง ลำตัว และชิ้นส่วนอื่น ๆ ถูกซุกเอาไว้ในตู้เย็น
สอบสวนเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า วานนี้ประมาณเวลา 20.00 น. ยังสามารถติดต่อผู้ตายได้อยู่ แต่แล้วเช้าวันนี้ก็ไม่สามารถติดต่อ จึงตัดสินใจมาหาที่บ้าน แต่ก็ไม่พบ เจอเพียงลูกชาย ซึ่งลูกชายก็ไม่ยอมบอกว่าผู้ตายที่เป็นมารดา อยู่ที่ไหน จึงได้ค้นหาภายในบ้าน ก็ไปพบว่ากลายเป็นศพถูกหั่นแช่ไว้ในตู้เย็น
เพื่อนผู้ตาย ยังเล่าด้วยว่า ในจังหวะเดียวที่กำลังค้นหาผู้ตายนั้น ลูกชายของผู้ตายได้วิ่งไปเอาปืนมายิงศีรษะตัวเองแล้วล้มลง จึงรีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ล่าสุดแพทย์พยายามยื้อชีวิตแต่ไม่สามารถช่วยไว้ได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้นายวีรศักดิ์ เขียวมงคล พร้อมด้วยนายลอน เถาวัลย์ พี่ชายและญาติของ นางสาวยุรีย์ เถาวัลย์ ผู้เสียชีวิตที่ถูกนายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี ลูกชายฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็นที่ซอยท่าข้าม เมื่อวานนี้ เดินทางมารอรับศพนางสาวยุรีย์ ที่นิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช
โดยนายวีรศักดิ์ พี่ชายของนางสาวยุรีย์ บอกถึงกรณีที่เพื่อนของนายศิระ ออกมาโต้ว่า นายศิระถนัดซ้ายแต่อาวุธปืนขนาด .38 มม.ที่พบนั้นกลับอยู่ด้านขวา ทำให้ไม่เชื่อว่าเพื่อนจะฆ่าตัวตาย โดยยืนยันว่า ปกติแล้ว จะเห็นหลานชายถนัดขวา เวลาทานข้าวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็มักจะใช้มือขวาตลอด ส่วนเรื่องโรคซึมเศร้านั้นขอย้ำว่าหลานชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจริง มีการรักษามา 2 ปี ที่ รพ.เจ้าพระยา แต่ทางนางสาวยุรีย์ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง เพียงแค่เล่าว่าพาไปรักษาตัวเท่านั้นผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพบ โพสต์สุดท้ายของนายศิระ ซึ่งได้ระบุสั้นๆว่า "อยากกินลูกชิ้นปิ้ง" เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์วิจารณ์กันมากมาย