โดยครูธัญ ได้ทวิตข้อความทวีตข้อความระบุว่า "หากกะเทยมีความศรัทธาในศาสนา ทำไมสังคมบางส่วนจึงมองว่า เป็นพระตุ๊ด พระแต๋ว และไม่เหมาะสม ความศรัทธาทำไมจึงมีเรื่องเพศที่กำหนดการเข้าถึง มันไม่ควรจะเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่ใช่หรือ"และเมื่อภาพละข้อความดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปได้มีชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ว่าการบวชไม่ผิด เพศสภาพไม่เกี่ยว แต่คิดจะแสวงธรรมะแล้วไม่ควรแต่งหน้าทาปากแดงเช่นนี้
ล่าสุด พระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตรแห่งวัดสร้อยทอง พระ
บวชนะบวชได้แน่ แต่การบวชไม่ใช่แค่เรื่องว่าการผิดหรือไม่ผิด เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมของเพศสภาพ พฤติกรรมเสียหายและละเมิดพระวินัยหลังบวชต่างหากที่สำคัญ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเพศสภาพนะการอยู่ในสังฆะ มีระเบียบและกฎเกณฑ์ที่จะต้องถือปฎิบัติร่วมกันในสังฆะ ไม่ใช่แค่อ้างสิทธิ์ในการบวชแล้วจะเข้ามาทำอะไรก็ได้ทุกวันนี้เราก็เห็นปัญหาอยู่ ไม่ใช่บวชแล้ว จะทาปากแดงเพื่อยืนยันสิทธิในการทาปากของตัวเองก็ได้ ไม่ใช่บวชแล้วจะกรีดตาเขียนคิ้ว เพื่อยืนยันสิทธิในการกรีดตาเขียนคิ้วของตัวเองก็ได้ ไม่ใช่บวชแล้วจะแต่งหน้าทำนม เพื่อยืนยันสิทธิในการแต่งหน้าทำนมของตัวเองยังไงก็ได้ ถ้าแบบนี้ พระศาสนาก็อยู่ไม่รอด ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความปสาทะเลื่อมใสอาตมาว่าสังคมสงฆ์ทุกวันนี้ใจกว้างมากเลยนะ หากดูจากข่าวที่พระซึ่งประพฤติตัวไม่เหมาะสมในการแสดงออกทางเพศ แต่แน่นอนแหล่ะ เมื่อเข้ามาบวชแล้ว ความพระเป็นเรื่องสำคัญกว่าเรื่องของเพศสภาพอาตมาเห็นพระรูปหนึ่ง เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก ท่านเคยเป็นถึงนางงามเพศที่ ๓ แต่พอท่านตัดสินใจจะเข้ามาบวช ท่านก็ไปเอานมออก แล้วท่านก็ประพฤติตนสำรวมดีมาก อาตมายังนับถือเลย ถ้าแบบนี้ก็ไม่เป็นปัญหา และสังฆะท่านก็ยอมรับ