โดยที่ประชุมได้มีข้อสรุปในการหารือให้มีการแบ่งคณะการทำงานจากชุดใหญ่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแต่งตั้งจำนวน 39 คน เป็นคณะย่อยเพื่อแยกหารือในแต่ละประเด็น เพื่อให้การหารือมีความกระชับ และได้ข้อยุติร่วมกันได้เร็วขึ้น ซึ่งได้มีการตกลงกำหนดสัดส่วนคณะย่อยแบ่งเป็น ภาคประชาชน จำนวน 10 คน ได้แก่ ผู้เข้าร่วมประชุม 5 คน และผู้สังเกตการณ์ 5 คน ภาครัฐ จำนวน 10 คน ได้แก่ ผู้เข้าร่วมประชุม 5 คน และผู้ติดตาม 5 คน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน พร้อมทั้งมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลในแต่ละประเด็นโดยจะนำข้อสรุปการหารือในคณะย่อยเข้าสู่การประชุมในคณะใหญ่ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายและเกิดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงานในฐานะคณะทำงานฯ เปิดเผยถึงประเด็นที่จะมีการหารือร่วมกันว่า สำหรับประเด็นการหารือแบ่งเป็น 2 เรื่องหลัก คือ 1. โครงสร้างราคาน้ำมัน และ 2. โครงสร้างราคาก๊าซ ซึ่งมีองค์ประกอบในการหารือ ประกอบด้วย ราคาหน้าโรงกลั่น ภาษี การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนอนุรักษ์พลังงาน และค่าการตลาด โดยเรื่องแรกที่จะมีการหารือร่วมกันคือ ประเด็นราคาหน้าโรงกลั่น ซึ่งจะประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรมถูกตั้งขึ้นตามคำสั่งกระทรวงพลังงาน ที่ 43/2562 ตามเจตนารมย์ของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนในการกำหนดนโยบายและแผนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับต่างๆ และตามที่กลุ่มประชาชนได้ขอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาทบทวนโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติให้เป็นธรรม โดยมีองค์ประกอบของคณะทำงานประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมจำนวน 39 คน ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานคณะทำงานฯ ภายใต้อำนาจหน้าที่หลักๆ ในการศึกษาวิเคราะห์พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการกำหนดโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซ ให้มีความเหมาะสม เป็นธรรม สอดคล้องกับภาวะตลาดน้ำมันของประเทศในปัจจุบันและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ