สำหรับในด้านการส่งออกสาขาที่คาดว่าไทยจะได้ประโยชน์ เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องแต่งกายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ เคมีภัณฑ์ ยาง และพลาสติก เป็นต้นส่วนสาขาที่คาดว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากการนำเข้า และต้องเตรียมการปรับตัว เช่นน้ำตาล ผัก ผลไม้ และเมล็ดถั่ว เป็นต้นและยังมีประเด็นด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยารักษาโรค และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นข้อกังวลหลักของภาคประชาสังคมที่จะต้องเตรียมการรับมือด้วย
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบว่า การฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูซึ่งหยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2557จะช่วยเพิ่มโอกาสขยายตลาดของสินค้าที่ไทยมีศักยภาพท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจากการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าของคู่ค้าไทยหลายประเทศและยังสามารถช่วยเพิ่มแต้มต่อทางการแข่งขันของไทยที่หายไป เมื่อเทียบกับประเทศที่มีเอฟทีเอกับอียูแล้วเช่น เวียดนาม สิงคโปร์ และบราซิล เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเอฟทีเอที่อียูทำกับประเทศต่างๆ มีมาตรฐานสูงทั้งในส่วนการเปิดตลาดสินค้า บริการและการลงทุน ตลอดจนประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการค้า เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การแข่งขันทางการค้าทรัพย์สินทางปัญญา การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ เป็นต้น หากไทยจะฟื้นการเจรจาจะต้องพิจารณาเตรียมความพร้อมและการช่วยเหลือเยียวยาอย่างรอบคอบ
"ขณะนี้การศึกษาได้ดำเนินมาจนถึงช่วงสุดท้าย คือการจัดสัมมนาเผยแพร่ผลการศึกษาและรับฟังความเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนาก่อนที่ไอเอฟดีจะนำเสนอผลการศึกษาฉบับเต็มต่อกรมฯ ต่อไป และหลังจากนั้น กรมฯจะนำผลการศึกษาเผยแพร่ทางเว็บไซต์กรมฯ www.dtn.go.th"