"พระเขมร" ป่วนเมืองกระบี่ ลักลอบเข้าไทยเรี่ยไรเงินชาวบ้าน

  สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) - เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย.2562 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 และเจ้าหน้าที่ ตม.จ.กระบี่ ร่วมกันแถลงผลจับกุม พระสงฆ์ชาวกัมพูชา จำนวน 4 รูป ในความผิดฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย สืบเนื่องจาก ตม.จว.กระบี่ ได้รับแจ้งว่า มีพระสงฆ์ต่างชาติเข้ามาเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยพระสงฆ์เหล่านั้นจะเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย เช่น จ.ชุมพร จ.กระบี่ และจะเข้ามาเรี่ยไรเงินคนในพื้นที่

จากการตรวจสอบในพื้นที่ จ.กระบี่ พบพระสงฆ์ชาวกัมพูชา จำนวน 4 รูป ไม่มีหนังสือเดินทาง และได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย เมื่อสอบถามได้ความว่า พระสงฆ์กลุ่มนี้ได้บวชมานานประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ามาเรี่ยไรเงินในประเทศไทย แล้วส่งกลับไปให้ทางบ้านที่ประเทศกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานกับเจ้าคณะอำเภอทำการจับสึก ทั้งนี้ พระสงฆ์ดังกล่าวเคยเข้ามาเรี่ยไรเงินคนในพื้นที่ชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยด้วย เบื้องต้น ดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศกัมพูชาอย่างไรก็ตาม จากการขยายผล เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ยังมีพระสงฆ์ต่างชาติมีพฤติกรรมลักษณะนี้อีกเป็นจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบ จนกระทั่ง ในวันที่ 15 พ.ย.62 พบชายไทยทราบชื่อต่อมาคือ นายสุริยา (ไม่ทราบนามสกุล) แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ นั่งอยู่ที่ศาลาภายในสุสานจีนบ้านทุ่งโหลง อ.เมืองกระบี่ ท่าทีมีพิรุธ จากการตรวจค้นพบยาบ้า 5 เม็ด อยู่ในย่าม จากการสอบสวนนายสุริยา ยอมรับว่า ตนไม่ได้บวชเป็นพระ เพียงนำจีวรมาสวม เพื่อขอเรี่ยไรเงินทำบุญ แต่เมื่อได้เงินมาจะนำไปซื้อยาเสพติดไว้เสพ และส่งเงินที่เหลือให้ครอบครัว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวไว้ดำเนินคดีข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ จากการตรวจประวัติพบว่า นายสุริยา เคยถูกจับกุมในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อปี 2549 ที่จ.ชลบุรี และเพิ่งออกจากเรือนจำ จ.นครสวรรค์ ในคดี พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ปี 2562