"ธนาธร" ตั้งข้อสังเกต คำวินิจฉัยศาล รธน.

ภายหลังจากเสร็จสิ้น การฟังคำวินิจฉัย ของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ศาลได้มีคำสั่งให้สิ้นสุดสภาพการเป็น ส.ส. ลงนั้น นายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และได้แสดงความเห็นต่อกรณีคำวินิจฉัยดังกล่าว โดยตั้งข้อสังเกตุว่า ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี บริษัท วี-ลัค มีเดีย ยังมีใบอนุญาติการพิมพ์ และยังไม่ยกเลิกการเป็นสื่อ จะกลับมาเป็นสื่อเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนของประเด็นนี้ นายธนาธร บอกว่า ถ้า บ.วีลัค ยังเป็นสื่อจริง แล้วกลับมาทำจริง ก็ควรจะไปตัดสินตอนนั้นนอกจากนี้ศาลยังพูดถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ว่าไม่ให้นักการเมืองให้คุณกับตัวเอง และให้โทษต่อผู้อื่น แต่ไม่ได้พูดว่าตนเองหรือ บ.วีลัค ทำผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) หรือไม่ และการจดทะเบียนผู้ถือหุ้นใหม่ของ บริษัท หรือ บอจ.5 มองว่าใน 1 ปี จะแจ้งเมื่อไหร่ก็ได้ และถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ส่วนกรณีคำวินิจฉัยต่อคำเบิกความของนางรวิพรรณ ภรรยาของตนเอง ที่เบิกความต่อศาลนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมา ภรรยาจะเป็นผู้ขึ้นเช็ค และในวันดังกล่าวลูกยังเล็ก แต่ศาลเห็นว่า สามารถให้คนอื่นไปได้ นายธนาธร จึงมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว และเป็นระเบียบปฏิบัติภายในครอบครัวของตนเอง ซึ่งจะให้ใครไปก็ถือเป็นสิทธิของตนเอง และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยให้คนอื่นไปขึ้นเช็ค และได้นำเช็คตัวจริงไปให้ กกต. ดู และภรรยาเมื่อทราบเรื่อง ก็ไม่กล้าไปขึ้นเช็ค เก็บเช็คไว้กับตัวเองก่อน ซึ่งในวันที่เข้าไปให้การกับ กกต. 30 เม.ย. ก็ได้ให้ทนายความนำไปยื่นให้กับ กกต. เพื่อแสดงให้เช็คตัวจริงให้ดูด้วย ซึ่ง กกต. เห็นทั้งเช็คตัวจริง และสำเนา ทั้งนี้นายธนาธร ยังตั้งข้อสังเกตุ ถึงการอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ด้วยว่า ไม่มีการบอกมติขององค์คณะผู้พิพากษา ซึ่งแต่ต่างจากคำตัดสิน หลายครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้น คำวินิจฉัยของศาลในวันนี้ ก็ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินว่าเป็นธรรมกับตนเองหรือไม่ ส่วนตนก็จะยังเดินหน้าทำงานต่อในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทั้งการเดินหน้ารณรงค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรณรงค์เพื่อให้ยกเลิก พ.ร.บ.การเกณฑ์ทหารต่อ และทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น พร้อมทั้งไม่กังวลเรื่องการถูกยุบพรรค พร้อมลงท้าย มั่นใจว่า จะได้กลับมาเป็น ส.ส. อีกครั้ง เพราะการเลือกตั้งยังมีอีกหลายสนาม และตนก็ยังมีรายชื่อ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย