- ศาลอธิบายความหมายของคำว่า หนังสือพิมพ์ / สิ่งพิมพ์ ตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ ว่า หนังสือพิมพ์หมายรวมถึงนิตยสารด้วย / การเลิกกิจการต้องจดแจ้งภายใน 30 วัน
- ศาลชี้ บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ จดทะเบียน 10 ม.ค.2551 / แจ้งวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการสิ่งพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ และโฆษกณาทุกรูปแบบ / บริษัทฯ ได้จดแจ้งการพิมพ์ ตาม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ เมื่อปี 2551 ด้วย
- ศาลชี้ ไม่ปรากฏหลักฐานว่า บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ จดแจ้งยกเลิกการพิมพ์ ก่อนวันที่ 6 ก.พ.62 ซึ่งเป็นวันส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.
- ศาลชี้ บริษัท วี-ลัค มีเดีย ยังมีสภาพประกอบกิจการสื่อมวลชน ณ วันที่ส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.
- ศาลชี้ ข้อต่อสู้ของผู้ถูกร้อง (ธนาธร) ที่อ้างว่าโอนหุ้นให้มารดา (นางสมพร) ตั้งแต่วนัที่ 8 ม.ค.62 นั้น / แต่ ปรากฏว่า ไม่มีการส่งแบบ บอจ.5 (แบบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น) ที่บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยเร็ว
- ศาลยกข้อมูลในอดีต ชี้ว่า ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ ได้ส่งแบบ บอจ.5 โดยเร็วเป็นปกติทุกครั้ง (มีการยกตัวอยา่งว่า ครั้งอื่นๆ มีการส่งแบบ บอจ.5 ทันที ใกล้เคียงกัับวันประชุมกรรมการบริษัท) ฉะนั้นการโอนหุ้นที่อ้างว่าโอน 8 ม.ค.62 นั้น จึงมีความผิดปกติ เพราะไม่ส่งสำเนารายชื่อเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นโดยเร็วเหมือนครั้งอื่น ทั้งๆ ที่เป็นการโอนหุ้นทีมีความสำคัญ เนื่องจากต้องนำไปใช้เป็นหลักฐานในการสมัคร ส.ส. เพื่อดำเนินงานทางการเมือง
- ศาลชี้ข้ออ้างธนาธรฟังไม่ขึ้น ที่ว่าไม่ได้ส่งแบบ บอจ.5 เพราะไม่มีนักบัญชีดำเนินการให้ / ศาลระบุว่าการโอนหุ้น หรือเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทวี-ลัค มีเดียฯ ครั้งอื่นๆ ใช้้วิธีส่งเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่ได้มีความยุ่งยากแต่อย่างใด
- ศาลชี้ปมเรื่องเช็คค่าหุ้น / ซึ่งธนาธรใช้เวลาถึง 128 วัน กว่าจะนำเช็คไปเข้าบัญชี / แต่กฎหมายเช็ค (พ.ร.บ.เช็ค) มีหน้าที่ให้ผู้ครองเช็ค ให้ขึ้นเช็ค (เรียกเก็บเงิน) ภายใน 1 เดือน
- ศาลตรวจสอบรายละเดอียดย้อนนหลัง 3 ปี พบว่า ผู้ถูกร้อง มีการเรียกเก็บเงินตามเช็ค ตัง้แต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป มีการเรียกเก็บเงิน ภายใน 42-45 วันทุกครั้ง
- ศาลย้อนข้อมูล นำเช็คไปขึ้นเงินนานที่สุด 98 วัน แต่ยอดเงินแค่ 2 หมื่นบาท /การนำเช็ค "สมพร" ขึ้นเงิน 128 วัน ผิดปกติวิสัย
- ศาลชี้ คำให้การรวิพรรณ เรื่องนำเช็คไปขึ้นเงินช้า ขัดแย้งกับหนังสือของผู้ถูกร้องเอง ที่ชี้แจงต่อ กกต. / คำอ้างรวิพรรณ ฟังไม่ขึ้น / สามารถมอบอำนาจให้คนอื่นไปขึ้นเงินแทนก็ได้ /ข้ออ้าง เรื่องการนำเช็คไปขึ้นเงินล่าช้า ไม่มีน้ำหนัก
- การโอนหุ้นของนางสมพร ไปให้หลาน ไม่มีค่าตอบแทน ย้อนแย้งกับการโอนหุ้นให้ลุก กลับมีค่าตอบแทน / การอ้างโอนหุ้นแบบไม่มีค่าตอบแทน ไม่มีหลักฐานตรวจสอบได้ว่าโอนจริงหรือไม่
- ศาลชี้ การโอนหุ้นให้หลานเพื่อดูแลกิจการ จริงๆ แล้วการถือหุ้นไม่ได้มีอำนาจจัดการในกิจการ / เอกสารโอนหุ้นอาจทำย้อนหลัง
- ศาลชี้ แม้ผู้ถูกร้อง (ธนาธร) เดินทางกลับจากบุรีรัมย์ วันที่ 8 ม.ค. มาที่กรุงเทพฯ ก็ยืนยันได้แค่ว่าอยู่ กทม.จริง / แต่ไม่ได้แปลว่ามีการโอนหุ้นกันจริง
- ศาลยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 1129 การโอนหุ้นกันเฉยๆ โดยยังไม่จดแจ้งในทะเบียนผู้ถือหุ้น นำมาอ้างกับบุคคลภายนอกไม่ได้
- ศาลชี้ ผู้ถูกร้อง (ธนาธร) ยังคงถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ ในวันที่ยื่นสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ถือเป็นลักษณะต้องห้าม สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ถือว่าสิ้นสุดลง
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" สมาชิกภาพ สิ้นสุด 23 พ.ค.62
ทั้งนี้ หลังศาล รธน.วินิจฉัยสมาชิกภาพคุณธนาธร พ้นจาก ส.ส. จากนี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะเลื่อนลำดับขึ้นมาคือ นายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 51 พรรคอนาคตใหม่ กลุ่มชาติพันธุ์
โดย มานพ คีรีภูวดล เป็นหนึ่งในรายชื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 51เป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ แกนนำในการยื่นหนังสือกับทางพรรคอนาคตใหม่ เพื่อเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการด้านชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งจะได้รับการเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แทนที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้สมาชิกภาพ สิ้นสุด 23 พ.ค.62