ทนายรณณรงค์ ยัน ถ้าเป็นโรคประสาทต้องอ้างในชั้นศาล กรณีป้าสดศรีถูกเพื่อนบ้านทำร้าย

พิธีกรสาว "ทิวาพร เทศทิศ" ได้โฟนอินคุยกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ในรายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" กรณีคนข้างบ้านที่ภรรยาอ้างว่าเป็นโรคประสาท เตะก้านคอ "ป้าสดศรี สดคง"ป้าที่ถูกเพื่อนบ้านเตะก้านคอ เพราะไม่พอใจที่เหม็นฉี่แมว
ถ้าเขาเป็นโรคประสาทจริงๆ ทำอะไรเขาไม่ได้เลยเหรอ?
ทนาย : "อย่างแรกถ้าใครอ้างเป็นโรคประสาท ต้องไปอ้างในชั้นตร. ชั้นอัยการ แต่ถ้ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ตร.ต้องจับกุมดำเนินคดีก่อน ถ้ามีความเห็นว่าบ้าจริงค่อยส่งไปบำบัด ไม่ให้ออกมาข้างนอก ผมเคยทำคดีเกี่ยวกับผู้ต้องหาเป็นบุคคลวิกลจริต โดยทั่วไป ตร.ไม่อยากดำเนินคดี เพราะเวลาจับมาส่งอัยการ อัยการส่งไปบำบัด มันไม่ได้ขึ้นศาล รายละเอียดค่อนข้างเยอะ เขาเลยไม่อยากอะไรกับคนบ้า แต่รายละเอียดในทางแพ่ง สมมติว่าบ้าจริง คนที่ดูแลคนวิกลจริต ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย มีพ่อแม่ดูแลไหม พี่น้อง ลูก ดูแลไหม ค่ารักษาพยาบาล ค่าเยียวยา คนดูแลคนบ้าต้องรับผิดชอบ แต่อีกมุมหนึ่ง ทางตร.ต้องทำให้ชัด ว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ดำเนินคดี เพราะตัวคนถูกกระทำ เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย แบบนี้พฤติกรรมอันตรายต่อสังคม"
ไม่จับตัวคนร้ายแบบนี้ ถือว่าละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ไหม?
ทนาย : "ถือว่าทำไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ขนาดตามงานวัด วัยรุ่นตีกัน เขายังจับสองฝั่งเลย"
เขาอ้างว่าไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่สามารถจับผู้ต้องหาได้?
ทนาย : "แต่สามารถใช้วิจารณญาณ สติปัญญา เชิญตัวไปโรงพักได้นี่ ควบคุมไปสอบปากคำได้นี่ ว่าเกิดอะไรขึ้น กฎหมายไม่ได้บอกว่าคุณต้องเห็นแล้วถึงจะจับได้"
ครอบครัวห่วงเหมือนตร.ฟังฝั่งโน้น ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขา ตร.ไม่เคยขอดูกล้องวงจรปิดเลย แบบนี้เอาเรื่องตร.ได้ไหม?
ทนาย : "ตร. ถ้าทำงานล่าช้า เราสามารถร้องเรียนไปยังผู้กำกับสน.ในท้องที่ได้ ถ้าทำคดีสุจริต โปร่งใส ผู้กำกับก็สามารถชี้แจงกับสื่อมวลชนได้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวล ถ้าชี้แจงไม่ได้ สามารถใช้สิทธิ์ไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชาของผู้กำกับได้ คือกองบัญชาการตร.นครบาล"