เมื่อหลายวันที่ผ่านมาได้มีการโพสต์เตือนจากเพจ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในอุทยาน.....
โดยทางเพจได้โพสต์ระบุว่า.....
National Park ฝากถึงนักท่องเที่ยวทุกท่าน ที่อาจจะยังไม่ทราบนะครับ ว่า ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า #ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ สำหรับท่านที่มีสัตว์เลี้ยงมาด้วย ก็ขอความกรุณาว่าอย่านำเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆที่จะตามมานะครับ
ล่าสุดได้มีโซเซียลรายหนึ่งได้โพสต์กฎหมายของห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ
โดยเฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเเละข้อความ.....
ปัจจุบันพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติมีการแก้ไขใหม่แล้วเมื่อปี พ.ศ. 2562
คือ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2562 โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศเป็นต้นไป คือครบ 180 วันในวันที่ 25 พ.ย. 2562 และจะเริ่มมีผลใช้บังคับในวันที่ 26 พ.ย. 2562 //วันอังคารหน้าที่จะถึงนี้
โดย พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ได้ยกเลิกกฎหมายเก่า 2 ฉบับ คือ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พ.ศ. 2532 (ดังนั้น พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ซึ่งถูกยกเลิกไปทั้งฉบับจึงไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป //นับแต่ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ)__________________กรณีประเด็นที่มีการแสดงความเห็นทางเฟสบุ๊กเกี่ยวกับ #การห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ นั้น ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นในเชิงข้อกฎหมาย ดังต่อไปนี้
ก่อนอื่นขอพูดถึงกฎหมายเก่าเสียก่อน คือ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 #ได้ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ จริง คือมาตรา 16 (12) บัญญัติว่า "ภายในเขตอุทยานแห่งชาติห้ามมิให้บุคคลใดนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์พาหนะเข้าไป เว้นแต่จะได้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติของรัฐมนตรี"ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ (ปัจจุบันคืออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช) ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 16 (12) ดังกล่าว ออกระเบียบกรมป่าไม้ ฉบับที่ 1/2506 เรื่อง การนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์พาหนะเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ลงวันที่ 16 พ.ค. 2506 กำหนดชนิดสัตว์ที่ได้รับยกเว้น คือ______ก. ม้า ลา ล่อ ที่ใช้เป็นพาหนะ______ข. สุนัข______ค. เป็ดและไก่ที่นำไปใช้บริโภค______ง. สัตว์ชนิดอื่นที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมป่าไม้เป็นหนังสือ.ระเบียบดังกล่าวกำหนดสาระสำคัญไว้ว่า ผู้ที่ประสงค์จะนำสัตว์ชนิดที่ได้รับยกเว้นตามข้อ ก. ข. และ ง. เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ต้องแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำทางเข้าทราบชนิด จำนวนสัตว์และระยะเวลาที่จะนำออกต้องควบคุมดูแลและให้อาหาร กักขัง ผูกหรือล่ามสัตว์เลี้ยงไว้ในบริเวณที่พัก ห้ามปล่อย เป็นต้น.สรุป โดยหลักคือ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ยกเว้น ม้า ลา ล่อ #และสุนัข ที่นำเข้าไปได้เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามที่ระเบียบกำหนด (ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด) (นอกจากนี้ยังมีหนังสือแจ้งเวียนของกรมป่าไม้อีกหลายฉบับ กำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับนำสัตว์เลี้ยงเข้าอุทยานแห่งชาติและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อนักท่องเที่ยว)__________________คราวนี้มาดูกฎหมายใหม่
คือ เมื่อ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ดังกล่าวถูกยกเลิกโดย พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ดังได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ต่อไปนี้จึงต้องบังคับใช้ตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 กำหนดข้อห้ามไว้ทำนองเดียวกับ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 แต่มาตรา 19 ดังกล่าว #ไม่มีข้อห้ามมิให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ เหมือนมาตรา 16 (12) อีกต่อไป (ความจริงก็คงหลักการเดิมคือไม่ได้ห้ามเสียทีเดียว)
อย่างไรก็ตาม มีมาตรา 21 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 กำหนดไว้ว่า__วรรคหนึ่ง "บุคคลใดนำหรือปล่อยสัตว์เข้าไปในอุทยานแห่งชาติต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"__วรรคสอง "หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด"นั่นหมายความว่า #สามารถนำสัตว์เข้าไปในอุทยานแห่งชาติได้แต่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งคำว่า "สัตว์" น่าจะหมายรวมถึงสัตว์ทุกชนิด ไม่จำกัดเฉพาะ ม้า ลา ล่อ และสุนัข ตามกฎหมายเดิม
แต่ถ้าฝ่าฝืนมาตรา 21 นำหรือปล่อยสัตว์เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท (มาตรา 48) หรือถ้าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 21 มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท (มาตรา 47)
ปล.1 ปัจจุบันยังไม่เห็นระเบียบที่อธิบดีออกตามมาตรา 21 วรรคสอง ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่อย่างใด
ปล.2 อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติและให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสม และไม่ควรก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่เพื่อนนักท่องเที่ยวด้วยกันหรือแก่สัตว์ป่า โดยเฉพาะเมื่อนำสัตว์เลี้ยงของตนเองเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติด้วยก็ควรมีความรับผิดชอบ ดูแล ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงของตนเองเป็นอย่างดี