เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทั้ง 2 สามีภรรยา นำหวยล็อตเตอรี่ รางวัลที่1 จำนวน1ใบ เงินรางวัล6ล้านบาท มาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.นนทบุรี แล้ว โดยฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิงเป็นคนจัดแจงขึ้นเงินรางวัลทั้งหมด เมื่อได้เงินแล้วให้โอนเข้ามาให้กับฝ่ายชาย
ระหว่างการรอภรรยาขึ้นเงิน นายวิจักร พยายามที่จะหลบนักข่าว เมื่อนักข่าวจำได้ นายวิจักรได้เดินหนี ทำให้ผู้สื่อข่าววิ่งตามถึงด้านหน้ากองสลาก จนนายวิจักร ตาแดงน้ำตาคลอ และ ได้ก้มกราบขอร้องไม้ให้ถ่าย และขอร้องสื่ออย่าขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว แค่นี้ก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว เพราะถูกสังคมประณาม ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
โดยหลังเกิดเรื่องและนำสลากมาขึ้นเงินตัดสินใจว่าจะแบ่งกันคนละครึ่งคนละ 3 ล้าน ส่วนความสัมพันธ์จะกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันหรือไม่ยังไม่ขอตอบ
นายวิจักร เล่าที่มาเบื้องหลังการแบ่งเงินรางวัลว่า ก่อนหน้านี้ได้ตกลงกันไว้แล้ว วางแผนจะแบ่งกันให้ฝ่ายหญิง2ล้าน และ 4ล้านเก็บไว้ซื้อบ้าน เป็นเงินจะซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ซึ่งก็เป็นเงินครอบครัวซึ่งเป็นความใฝ่ฝันอยากมีบ้าน แต่พอหลังจากที่ญาติเข้ามาวุ่นวาย ฝ่ายหญิง พูดคุยทางโทรศัพท์ กับญาติ นาน1ชม.จากนั้นจะมาขอแบ่งคนละ3ล้าน ทำให้มีปากเสียงและเตะขวด ด้วยความโมโหจึงออกจากบ้านไป4ชม. และไม่ได้นำล็อตเตอรี่ไปฝากไว้กับแม่ของตัวเองก่อนหน้านี้ ยืนยันไม่ได้หนี แค่หายจากบ้านไป4 ชม. เนื่องจากภรรยาเปลี่ยนไป รับว่ามีปากเสียงแต่ไม่ได้ทำร้าย และพูดว่าอยากได้เงินให้ไปฟ้องเอา ยอมรับว่าพูดต่อหน้าญาติของฝ่ายหญิง แต่พูดไปเพราะด้วยความที่ไม่พอใจญาติที่เขามาวุ่นวาย เพราะก่อนหน้านี้ลำบากไม่เคยมีใครมาสนใจ แต่พอถูกรางวัลมีแต่ญาติที่เข้ามา จนทำให้ฝ่ายภรรยาตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวัน จนกลายเป็นเรื่องใหญ่
ด้านนางสาว พรธิดา ชำนาญเวช อายุ23ปี เปิดใจว่า หลังจากนี้ กลับไปก็ไม่เหมือนเดิม ขอกลับไปเริ่มใช้ชีวิตใหม่กับครอบครัวดีกว่า เพราะเสียความรู้สึกหลายๆอย่าง กรณีที่ฝ่ายชายบอกกว่าญาติมาวุ่นวาย ในความเป็นจริงไม่ได้วุ่นวายขนาดนั้น ที่ญาติเขามายุ่งเพราะเธอยังอายุแค่23ปี จึงอยากให้ญาติช่วยตัดสินใจ แม้ก่อนหน้านี้ตะตกลงให้เงิน2ล้านบาทไปให้ครอบครัวเธอ และอีก4ล้านบาท แบ่งเงินเป็นทรัพย์สินร่วมกัน แต่ไม่พอใจที่ฝ่ายชายจะซื้อบ้าน ในชื่อแม่ของฝ่ายชาย ซึ่งตนอยากให้เป็นชื่อของตัวเอง และสามี เพื่อเป็นหลักประกันความั่นคงในชีวิต
นางสาว พรธิดา บอกว่า เงินที่ได้มา3 ล้าน ก็ไม่มีความสุข เพราะตัวเธอก็รักสามีมากลำบากมาด้วยกัน ตอนผ่านความจนมาด้วยกันเราก็ใช้มาด้วยกันได้ปกติ เเต่พอมีเรื่องเงินเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ทั้งคู่เปลี่ยนไป ถ้าเป็นแบบนี้ไม่อยากให้ถูกหวยดีกว่า และ ไม่อยากให้สังคมมองฝ่ายชายไม่ดี เพราะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ส่วนตัวเธอรักทั้ง2ครอบครัว
สำหรับเงินรางวัล 6ล้านบาท ถูกหักภาษีร้อยละ 0.50 เป็นเงิน 30,000 บาท ได้เงิน 5,97000 บาทเจ้าหน้าที่กองสลากให้ข้อมูลว่า ในกรณีที่สามีภรรยา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แม้ภรรยา จะมีการลงบันทึกประจำวัน แต่เป็นเพียงแต่หลักฐานว่าบุคคลดังกล่าวถูกรางวัลไม่มีผลต่อการขึ้นรางวัลกับกองสลากแต่งอย่างใด การสลักชื่อทั้ง 2 คน หลังล็อตเตอรี่ก็ไม่มีผลทางกฎหมาย ใครที่ถือสลากนำมาขึ้นเงินก็เป็นของคนนั้น
ทั้งนี้เรื่องกรณีดังกล่าวที่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่กลับไม่จบง่ายๆ เมื่อเว็บไซต์ "เดลินิวส์ออนไลน์" เผยว่า นายเดชา กิติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ ได้เผยเพิ่มเติมว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากนาง ก.(นามสมมุติ) หญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีทะเบียนสมรสถูกต้องทุกประการ ของ นายวิจักร โดยหลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมาย เอาผิดกับ น.ส พรธิดา และยืนยันว่าเงินรางวัลที่1 จำนวน 6 ล้านบาท ตนต้องได้รับส่วนแบ่งเนื่องจากเป็นสินสมรส สามีไม่สามารถนำไปให้หญิงอื่นได้ และจะเข้าแจ้งความเอาผิดกับหญิงสาวดังกล่าวเนื่องจากเป็นชู้
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ ทางตนเองก็ต้องตรวจสอบหลักฐานเพื่อการดำเนินคดีต่างๆต่อไปขอบคุณข้อมูลเว็บไซต์เดลินิวส์ : https://www.dailynews.co.th/regional/742309