เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมาตามมติที่ประชุมของสหภาพการทางฯ โดยชี้แจงว่าการดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยไม่มีกฎหมายรองรับ ล่าสุดป.ป.ช. ได้ขอข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม และกทพ. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
นอกจากนี้ สหภาพฯกำลังติดตามแนวทางการพิจารณาของกระทรวงคมนาคมว่าจะตัดสินใจเรื่องดังกล่าวอย่างไร เพราะได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา และเสนอให้ รมว.คมนาคมพิจารณา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องทบทวนการเจรจาใหม่ เนื่องจากสมมุติฐานได้เปลี่ยนแปลงไป
1.สมมติฐานจากเดิมที่บอกว่าผู้ร้องเป็นฝ่ายชนะ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปเนื่องศาลปกครองกลางพิพากษาให้ กทพ ชนะ คดี ที่ BEM ฟ้องเรียกร้องในเรื่องการเปลี่ยนแปลงงานตามสัญญาด่วน 2
2. ยังมิได้มีการตรวจรับงานของที่ปรึกษาตามขั้นตอนของ พรบ. จัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
3.การก่อสร้าง double deck เป็นโครงการใหม่ มูลค่าสูง การให้สิทธิเอกชนรายเดิม อาจไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน พ.ศ. 2562 รวมถึงยังมิได้ผ่านกระบวนการคัดเลือกผู้รับจ้างตาม พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้าง ฯ
4.ข้อบังคับของ กทพ ว่าด้วย การปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหรือตามคำพิพากษา พ.ศ. 2551 ให้อำนาจผู้ว่าการกทพ.ดำเนินการชำระตามคำพิพากษา
ปัจจุบันการมติคณะกรรมการ กทพ ให้ชะลอการดำเนินดังกล่าวสหภาพฯ ยังมีความเป็นห่วงกรณีที่การเจรจายืดเยื้อ และไม่ทันสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ที่จะหมดอายุลงวันที่ 29 ก.พ. 2563 ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร