"เมย์" พ่ายมือ3โลกจีน ได้รองแชมป์ "แบดฮ่องกง"

โดยสถิติการเจอกัน 12 ครั้ง เมย์ เอาชนะได้เพียง 2 ครั้ง ส่วนครั้งล่าสุดในรอบ 8 คน ศึก "ไชน่า โอเพ่น 2019" เมื่อสัปดาห์ก่อน เมย์ พ่ายไป 0-2 เกม
ขณะที่ครั้งนี้ผลปรากฎว่า รัชนก ที่พ่ายไปก่อนในเกมแรก 18-21 แต่ก็แก้เกม เดินชนหน้าเน็ต สลับกับจังหวะฝีมือที่ดีกว่า พลิกกลับมาชนะในเกมสอง 21-13 แต่เกมสุดท้าย ด้วยอาการที่เหนื่อยล้า ของเมย์ ทำให้พ่ายไป 13-21 สรุป รัชนก แพ้ไป 1-2 เกม 18-21, 21-13, 13-21 ส่งผลให้รัชนก ได้รองแชมป์เป็นรายการที่ 4 ในปีนี้ และรับเงินรางวัล 15,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 456,000 บาท
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า แม้เมย์จะแพ้อีกครั้งให้กับสาวจีนรายนี้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง และอาจมีอาการเหนื่อยล้าจากรอบรองฯ ที่ต้องเล่นถึง 3 เกมจนไม่สามารถเร่งเกมได้ดีขึ้น ประกอบกับ เฉิน อู้เฟย อยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง เข้าชิงฯ 6 รายการในปีนี้ และคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ดี เมย์ก็ยังถือว่ารักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา เข้าชิงฯ 6 รายการ และคว้าแชมป์มาได้ 2 รายการ ซึ่งทั้งหมดเป็นระดับซูเปอร์ 500 จึงนับว่าเป็นปีที่ดีสุดในรอบกว่า 10 ปี ตั้งแต่ออกแข่งขันอาชีพ และยังมีคะแนน "เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์" เป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย ซึ่งนับว่ายอดเยี่ยมมาก และเชื่อว่าเมย์จะรักษาผลงานเช่นนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ จึงอยากให้ชาวไทยเป็นกำลังใจให้เมย์ และนักแบดมินตันไทยกันต่อไป
"เมย์ รักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองได้เป็นอย่างดีในปีนี้ เพราะโตขึ้นมาก และมีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงมุ่งมั่นฝึกซ้อมเช่นเดียวกับนักแบดมินตันไทยทุกคน ที่หวังจะทำผลงานให้ดี อย่าง "ครีม"บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือ 18 ของโลก ที่ได้สิทธิ์ลงเล่น "เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์" เป็นครั้งแรกของตัวเอง และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการแบดมินตันไทยที่มีนักแบดมินตันไทย 2 คนลงแข่งขันประเภทเดียวกันในรายการนี้ รวมถึง หญิงคู่ "กิ๊ฟ"จงกลพรรณ กิติธรากุล-"วิว"รวินดา ประจงใจ คู่มือ 9 ของโลก ที่แม้ผลงานไม่โดดเด่น แต่ก็เข้ารอบลึก และคว้าแชมป์ได้ 1 รายการ และรองแชมป์อีก 1 รายการ รวมถึง คู่ผสม "บาส"เดชาพล พัววรานุเคราะห์-"ปอป้อ"ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 4 ของโลก ที่ผลงานดีตลอดทั้งปี เช่นเดียวกัน" คุณหญิงปัทมา กล่าว