หนุ่มใหญ่โร่แจ้งความสูญเงินจากบัญชีกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (13 พ.ย. 2562) นายเอกพัฒ อธิธนัทกุล อายุ 61 ปี หรือ "เฮียหมา" เจ้าของร้าน"นายหมา ทะเลมีชีวิต" ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนตำหรุ-คลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้นำเอกสารสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู หลังจากเงินที่ฝากไว้กับธนาคารดังกล่าวกว่า 5 ล้านบาท ได้หายออกจากบัญชีไป และสมุดบัญชียังถูกยกเลิกโดยไม่ทราบ จนไม่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้
นายเอกพัฒ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 61 ตนได้นำเงินจำนวนกว่า 5 ล้านบาท ไปฝากไว้ที่ธนาคารดัง สาขานิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งพนักงานธนาคารได้แนะนำให้ตนฝากเป็นประเภท 12 เดือน เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยมากกว่าฝากแบบออมทรัพย์ธรรมดา ซึ่งตนคิดว่าบัญชีนี้ตนจะเก็บเอาไว้เป็นบัญชีเงินเก็บและไม่ได้เบิกออกมาใช้จ่ายอยู่แล้ว จึงตกลเปิดบัญชีพร้อมกับนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีตามขั้นตอน หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีอีกเลย

จนกระทั่งได้นำสมุดบัญชี 12 เดือนเล่มดังกล่าว ไปปรับสมุดเพื่อที่จะดูอัตราดอกเบี้ย ที่ธนาคารสาขาโรบินสันสมุทรปราการ พบว่าสุดบัญชีเล่มดังกล่าว กลับไม่สามารถปรับยอดได้ จึงลองนำสมุดบัญชีอื่นซึ่งเป็นบัญชีเงินค้ำประกันธุรกิจที่เปิดไว้ธนาคารเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถปรับสมุดได้ เข้าไปสอบถามพนักงานธนาคารแล้ว พนักงานจึงอธิบายว่าสมุดบัญชีทั้งสองเล่มถูกยกเลิกการใช้งาน ให้ไปติดต่อสาขาที่เปิดบัญชี เขาจึงเดินทางไปที่ธนาคารสาขาที่ตนเปิดบัญชีไว้ พนักงานธนาคารจึงตรวจสอบ พบว่า เงินจำนวน 5 ล้านบาท ที่ฝากในบัญชีประเภท 12 เดือน ถูกย้ายออกไปใส่ไว้ในบัญชีที่ค้ำประกันธุรกิจ ที่มีเงินในบัญชีกว่า 1 แสนบาท เป็นบัญชีที่ถูกยกเลิกไปแล้ว
เมื่อตรวจสอบสมุดบัญชีเล่มดังกล่าวที่ถูกย้ายเงินจำนวน 5 ล้านบาท ตามที่พนักงานธนาคารได้แจ้งมา พบว่ามีการทำสมุดบัญชีใหม่และ มีการเซ็นชื่อถอนเงินออกจากบัญชี 12 เดือน ถึงสองล้านห้าแสนบาท และลายมือที่เซ็นเบิกก็ไม่ใช่ลายเซ็นของตน เกิดความไม่สบายใจและความปลอดภัยในธนาคาร

นายเอกพัฒ เปิดเผยต่อว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมผู้ที่จงใจโยกย้ายเงินของตนถึงรู้ว่ามีบัญชีเงินฝากของธนาคารนี้ ในสาขาเดียวกันบัญชีอื่นอีก เลือกใช้บัญชี 12 เดือน และบัญชีค้ำประกันธุรกิจที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่อยากโทษเจ้าหน้าที่ธนาคาร จึงเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ทางธนาคารออกมาชี้แจงและรับผิดชอบกับเงินของที่หายไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน และจะเชิญทางผู้บริหารของธนาคารสาขาดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป