ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาเเห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 หรือ ซีเกมส์2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ ซึ่งชิงชัย 56 กีฬา รวม 523 รายการ ซึ่งจะแข่งขัน กันตั้งแต่ 30 พ.ย. 11 ธ.ค. วิเคราะห์ว่า โอกาสที่ไทยจะขึ้นไปเป็นผู้นำเหรียญทอง ไม่น่าจะทำได้ง่าย เพราะปัจจัยจากภายนอกที่มีเข้ามา อันจะทำให้การทำผลงานของนักกีฬาไทย ต้องเผชิญกับอุปสรรค แต่ก็เชื่อว่าโดยภาพรวมแล้ว นักกีฬาไทยจะทำผลงานได้ดีกว่าที่มาเลเซีย โดยต้องโฟกัสไปที่ชนิดกีฬาสากล กับการทำผลงาน เพราะจะแสดงให้เห็นถึงการต่อยอดไปสู่การเเข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ เเละโอลิมปิกเกมส์ ที่เป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญ
" ที่ผ่านมากกท.มีหน้าที่ในการดูเเลเเละรับผิดชอบตั้งเเต่การเก็บตัว จนถึงส่งนักกีฬาร่วมเเข่งขัน โดยซีเกมส์ครั้งนี้ เริ่มเก็บตัวตั้งเเต่เดือน เม.ย. จนถึงปลายเดือนพ.ย. รวมเวลา 240 วัน ซึ่งกกท.ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ทั้งเรื่องสถิติ, ร่างกาย, วิทยาศาสตร์กีฬา เเละจิตวิทยา และบางสมาคมฯ ในการเก็บตัว ก็เป็นการใช้แเผนควบคู่ไปถึงการเเข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งกกท.ก็ได้ให้การสนับสนุน เพราะอยากเห็นถึงผลงานนักกีฬาไทย" ดร.ก้องศักด ระบุ