โผล่อีก แก๊งค์ล่อซื้อแก้วการ์ตูน

วันนี้ (12 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาผู้เสียหายกว่า 15 ราย ถูกล่อซื้อแก้วเก็บความเย็นที่มีรายการ์ตูนลิขสิทธิ์ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานกฎหมายและคดี ได้รับเรื่องดังกล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้พาผู้เสียหายมาร้องต่อ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ให้ตรวจสอบว่ามีการจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์มีการมอบอำนาจให้แก่ผู้ทำการจับถูกต้องหรือไม่ และพนักงานสอบสวนดำเนินการสิบาวนโดยชอบหรือไม่ เรื่องจากพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำไว้ แต่ปล่อยใ้ห้ผู้ดำเนินการจับกุมลิขสิทธิ์พาตำรวจไปจับ ไม่มีบันทึกจับกุม ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมามีแต่ผู้จับกุมลิขสิทธิ์พาตัวมาโรงพักไม่ได้มีการส่งมอบบันทึกจับกุมให้พนักงานสอบสวน และมีการรีดเงินผู้ถูกจับกุมและยอมความกันโดยการจ่ายเงิน

ด้านนายบุญยวัตร์ หนูหงษ์ อายุ 55 ปี อดีตอาจารย์มหาลัยชื่อดังย่านพระนครเหนือเจ้าของโรงกลึง กล่าวว่า เพื่อนของเมียได้ฝากลูกชายหิ้วแก้วเยดิลายโดเรม่อนไปส่งให้ที่บริเวณโรงพยาบาลราชวิถี แล้วถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา แล้วถูกเรียกเงินเป็นจำนวน 30,000 บาท เพื่อให้ปล่อยตัวลูกชายเพราะเป็นห่วงอนาคต แล้วได้เพียงบันทึกประจำวันยอมความเท่านั้น ของ สน.พญาไท ไม่มีใบเสร็จจ่ายเงินแต่อย่างใด ทำให้ตนรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก วันรุ่งขึ้นจึงมาขอบันทึกการจับกุมแต่ไม่ให้ ขนาดเคยเป็นอดีตข้าราชการแล้วคนธรรมดาจะทำอย่างไร เงิน 30,000 ไม่เท่าไหร่ แต่จะเอาผิดแก็งชั่วจับที่เข้ามาจับกุมเอาเปรียบละเมิดลิขสิทธิ์ให้หมดไป

ด้าน พล.ต.ต.สุคุณ กล่าวว่า ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาผู้ร้องทุกข์เกี่ยวกับการจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์ 15 รายเข้ามาที่ บช.น. เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบผู้ร้องเป็นผู้ที่ถูกบริษัทลิขสิทธิ์จับกุมดำเนินคดีตกลงค่าเสียหายถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเป็นอย่างไร โดย บช.น. ได้รับเรื่องไว้และดำเนินการตรวจสอบตามที่ได้ร้องขอ
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการจับกุมคดีลิขสิทธิ์นั้นเป็นความผิดอันยอมความได้ การที่จะยอมความได้ต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์ก่อน โดยหลักการแล้วผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ก็มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกับผู้ที่ละเมิด ขั้นตอนแรกก็ให้ไปแจ้งความก่อน ขั้นต่อไปก็คือการดำเนินการในการสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุม เมื่อจับกุมแล้วผู้เสียหายเองก็มีสิทธิ์ที่จะร้องเพื่อถอนคำร้องทุกข์ไปได้เพราะคดีดังกล่าวยอมความได้ หากไม่ได้มีการแจ้งความเอาไว้ก่อนถือว่าไม่มีการร้องทุกข์ก็จะไม่เป็นคดี ทั้งผู้แทนและพนักงานสอบสวนที่รับเรื่องอาจจะมีความผิดได้เพราะไม่มีอำนาจมาดำเนินการดังกล่าว โดยจะตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปกระทำความผิดด้วยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ผู้เสียหายในพื้นที่อื่นๆ ต้องการให้ตรวจสอบยินดีที่จะตรวจสอบให้และมีมาตรการในการกำชับการปฏิบัติของผู้เกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน มีระเบียบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าไม่มีการดำเนินการไม่ถูกต้องก็ต้องรับผิดชอบการดำเนินการไม่ถูกต้องนั้นด้วย