svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ชัยวัฒน์" ชี้พิรุธการสอบสวนของ "ดีเอสไอ" ปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล

12 พฤศจิกายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การมอบตัว ของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี (อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ) กับ จนท อีก 3 นาย ที่ถูกกล่าวหาในคดี บิลลี่ ตามหมายศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นโจทก์ กล่าวหา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับ จนท อีก 3 นาย ทั้ง 6 ข้อหา นั้น

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรและ จนท 3 นาย ได้กล่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ไม่เชื่อถือ เชื่อมั่น ดีเอสไอในขบวนการ สืบสวนสอบสวนตั้งแต่

"ชัยวัฒน์" ชี้พิรุธการสอบสวนของ "ดีเอสไอ" ปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล

-พบกระดูก เป็นกระดูกส่วนกระโหลก และเป็นเฉพาะส่วนที่ มนุษย์ถ้าไม่มีชิ้นส่วนนี้ แสดงว่าไม่มีชีวิต ลงงมในน้ำ ที่อ้างว่าลึก ต้องใช้เครื่องมือทันสมัย ลงสองครั้ง แล้วเจอกระโหลกชิ้นนี้-ส่วนถัง เห็นๆ กันอยู่ว่า มันสามารถเอาไปเผา หมู/สุนัข/ ยังไม่ได้เลย อย่าไปเล่าเรื่องถึงการเอาคนไปเผาเลย มองกันด้วย สามัญสำนึก หรือ ผู้ที่ทำงานสืบสวนสอบสวนมา ก็เห็นอยู่ว่ามันไม่ใช่หลักฐาน ที่เอามาประกอบคดี เพื่อกล่าวหา พวกผม

-วิธีการ เรียก จนท ไปสอบเป็นพยาน หาข้อมูล แต่กลับถามนำ เพื่อให้พยาน ตอบตามเป้าหมายหาความผิด หรือ พูดกันง่ายๆไม่แสวงหา ข้อเท็จจริง คือ หาข้อเท็จ และข้อจริง การเป็นพนักงานสอบสวน ต้องแสวงหา ข้อมูลพยานหลักฐาน ด้วยความเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรม ทั้งสองฝ่าย การสอบสวน ควรแสวงหาข้อมูลทั้งสองด้าน ทั้งด้านที่เกิดจากการกระทำความผิด หาวัตถุพยาน และพยานหลักฐาน รวมถึงพยานบุคคล และด้านข้อเท็จจริง ต้องหาข้อแย้งในกรณีที่ ได้พยานหลักฐานในความผิด เพื่อวิเคราะห์ พิจารณาคิดว่า หลักฐานดังกล่าว ใช่หรือไม่ เพียงพอหรือไม่ หรือ พยานที่ได้มา เชื่อถือได้หรือไม่ และ ผู้ที่ถูกกล่าวหา นั้น ถ้าไม่ได้กระทำหรือวัตถุพยานไม่ใช่ ควรหักล้างในการสอบสวน อย่างเป็นธรรมนอกจากนี้ กรณี นายบุญแทน บุษราคัมจนท 1 ใน 3 ที่ดาบเท่ง ไปข่มขู่และโยนความผิดให้ผม ว่า "หัวหน้าอี่สั่งฆ่าบุญแทน" วิธีการแบบนี้ มีใช้มานานแล้ว และใช้ได้ผล ถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามแผน ดาบเท่ง คือ ลูกน้องไตรวิทย์ น้ำทองไทย ซึ่งทำคดีบิลลี่มาก่อน และ สำนวนการสอบสวน ของดีเอสไอ ก็เอามาจาก ไตรวิทย์ เช่นกัน การสอบสวน จึงเห็นว่า ทำไม่โปร่งใส ผมและ จนท 3 นาย จึงไม่ขอให้การใดๆ ทั้งสิ้น ต่อพนักงานสอบสวน จะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยนายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นจำนวนมากว่า "ผมพร้อมจะให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ รวมทั้งสื่อด้วยนะ สร้างสตอรี่ สร้างอะไรต่างๆ จนชีวิตข้าราชการของผม และเจ้าหน้าที่3คน แทบจะไม่มีที่ยืน รวมทั้งครอบครัวผม...ทุกคนยังไม่รู้เลยว่าสิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก... สื่อเองก็ต้องนำเสนอให้ในความเป็นจริง

"ชัยวัฒน์" ชี้พิรุธการสอบสวนของ "ดีเอสไอ" ปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล


ชีวิตข้างราชการผมต้องมายืนอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่ผมเป็นผู้พิทักษ์ป่า รักษาป่ามาตลอดชีวิต ทุ่มเทชีวิตร่างกายเพื่อแผ่นดิน แต่กระแสที่ออกมา พวกผมเป็นจำเลยสังคม โดยเฉพาะโลกโฆเชียล ทำกันแบบนี้ ให้ความเป็นธรรมกับพวกผมแค่ไหน ผมยืนเลยวาผมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมมาตลอด ผมไปกล่าวหาใคร ผมก็ให้เขามีสิทธิ์ในการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เขามีสิทธิ์พูด มีสิทธิ์เอ่ย มีสิทธิ์กล่าวทุกเรื่อง
แต่สื่อเองวันนี้ผมเรียนตรงๆเลยว่า ทำผมกับครอบครัว ทำแ้กระทั่งสถาบันของผมเป็นผู้ร้ายในโลกโซเชียล ความผิดชอบชั่วดีผิดถูกใครทำหลักฐานเป็นอย่างไร ใครนำเสนอไหม ผมเรียนเลยว่าวันนี้ ผมจะมาดูหลักฐาน... ดูว่าดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาผมอะไรบ้าง "
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า "ผมขอความเป็นธรรมกับสื่อ ดูไปเรื่อยๆว่า ข้อมูลที่มีอยู่ทุกวันนี้ แม้กระทั่งดีเอ็นเอ เศษกระโหลก ที่ไปเจอแม้กระทั่งถัง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ผมพร้อมที่จะสู้ น้องผมพร้อมที่จะสู้ เราต่อสู้เพื่อแผ่นดินมาตลอด แต่วันนี้ชีวิตผม ครอบครัว สถาบันที่ผมยืนอยู่ ผมสู้เพื่อแผ่นดินได้แผ่นดินกลับคืนมาตั้งเท่าไหร่ แต่กลับมาเป็นแบบนี้ใช่ไหม

logoline