ชัยวัฒน์ตกเป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้งในปี 2555 หลังเกิดเหตุการณ์เผานั่งยางช้างป่าเพื่อเอางา โดยจับผู้ต้องหาได้ 5 คน ประกอบด้วยลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต่อมานายชัยวัฒน์ได้เดินทางเข้าใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัว โดยปฏิเสธไม่รู้เห็นเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น
ต่อมาชัยวัฒน์นำทีมพนักงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 100 คน บุกโรงพัก สภ.แก่งกระจาน ยื่นหนังสือจี้ตำรวจดำเนินคดีนายนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายสุรพงษ์ กองจันทึก คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ฐานหมิ่นเบื้องสูง หลังจากสำนักคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีหนังสือถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานว่าให้ยกเลิกโครงการปลูกพืชอาหารช้าง สร้างอาหารสัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน
และในเดือน พ.ย.2555 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบแก็งค์ลักลอบล่าสัตว์ได้ที่ป่าห้วยแม่ประโดน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ตัวผู้กระทำผิด 9 คนพร้อมอาวุธครบมือ หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจยศพ.ต.ท. ต่อมาภายหลังกลับถูกไม่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี วีรกรรมครั้งนั้น ส่งผลให้มีประชาชนให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
ต่อมาปี 2559 จากปฏิบัติการชุดพญาเสือโคร่ง ที่นำโดยนายชัยวัฒน์ ที่บุกตรวจค้นบ้านพักนายสมัคร ซึ่งปลูกอยู่บนยอดเขามิสก๊อก หมู่ 3 บ้านประดาง อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยกล่าวหาว่านายสมัคร สร้างบ้านบุกรุกป่าประมาณ 4 ไร่ จนนำไปสู่การฟ้องร้องกันหลายคดี ทั้งนี้ นายสมัครและนายชัยวัฒน์ ต่างเป็นศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เหมือนกันและเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน โดยนายสมัคร เป็นศิษย์พี่รุ่น 41 นายชัยวัฒน์ ศิษย์น้องรุ่น 51
ชัยวัฒน์ เริ่มเป็นที่สนใจขึ้นอีกครั้ง หลังทีมพยาเสือ รวบ "เปรมชัย"ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก4 คนในคดีร่วมกันล่าเสือดำ ซี่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรีเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2561 และได้มีส่วนร่วมดำเนินคดีกับผู้กระทำปชผิดในครั้งนั้นด้วย
ใน2560ชัยวัฒน์ เริ่มถูกพูดถึงกันอีกครั้งหลังถุกดำเนินคดีใส่ความหมิ่นประมาทนายสมัคร ดอนนาปี ต่อประชาชน ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และแถลงข่าวว่า ได้ค้นบ้านพักของนายสมัคร เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยนายสมัครกระทำผิดกฎหมาย อาศัยตำแหน่งหน้าที่ครอบครองที่ดินชาวบ้านที่บริจาคให้ส่วนราชการ เป็นข้าราชการที่ประพฤติไม่ชอบทั้งธรรมาภิบาล วินัย และกฎหมาย ทำให้นายสมัครเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และได้ถูกตัดสินจำคุก แต่เจ้าตัวได้รับการประกันตัวออกไปได้
ล่าสุดในวันนี้ "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" ตกเป็นเป้าสนใจของสังคมอีกครั้ง หลังยอมรับว่า ได้ควบคุมตัวนายบิลลี่ไว้ ฐานน้ำผึ้งป่าอันไว้ในครอบครองซึ่งขัดต่อกฎระเบียบของอุทยาน แต่เจ้าตัวยอมรับว่า ได้ตักเตือนและปล่อยตัวไปแล้ว พร้อมทั้งมีพยานรู้เห็นเหตุการณ์อีกด้วย แต่เมื่อเป็นคนสุดท้าย ที่ได้พบกับบิลลี่ จึงต้องถูกกระแสพาดพิง แม้จะยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ
"ผมไม่ได้หนีไปไหนและพร้อมเข้าสู้ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นหมายจับดังกล่าว ยอมรับว่าได้ยินข่าวจากสื่อ รวมทั้งข่าวเรื่องคำสั่งโยกย้ายด้วย"นายชัยวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุมัติหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 นายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกรอย หลังดีเอสไอ นำพยานหลักฐานยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับพร้อมข้อหาประมาณ 10 ข้อหา