svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

อาร์เซ็ปเดินหน้าลงนาม 15 ประเทศไม่รออินเดียปีหน้า

08 พฤศจิกายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเตรียมความพร้อมฝ่ายไทยก่อนร่วมลงนามอาร์เซ็ปกับอีก 14 ประเทศสมาชิกปีหน้า พร้อมกางแผนประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนใช้ประโยชน์จากความตกลงให้เต็มที่ เชื่อยังคงเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้อินเดียยังไม่ตกลง

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรมอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยหลังจากผู้นำประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซ็ป : RCEP) 16 ประเทศ ร่วมกันออกแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จการเจรจาอาร์เซ็ป เมื่อวันที่ 4พฤศจิกายน 2562 ที่กรุงเทพฯ ว่า สมาชิกอาร์เซ็ป 15ประเทศ สามารถปิดการเจรจาจัดทำความตกลงอาร์เซ็ปทั้ง 20 บทและการเจรจาเปิดตลาดในส่วนที่สำคัญทุกประเด็นได้แล้วและมอบให้คณะเจรจาไปเริ่มขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย เพื่อลงนามความตกลงอาร์เซ็ปในปี 2563

ทั้งนี้ ในส่วนของอินเดียยังมีประเด็นคงค้างที่จะต้องเจรจาต่อซึ่งสมาชิกอาร์เซ็ปจะทำงานร่วมกัน เพื่อหาข้อยุติในประเด็นคงค้างของอินเดียต่อไป"  ซึ่งหลังจากนี้ สมาชิกอาร์เซ็ปทั้ง 15ประเทศ จะจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่เพื่อขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายของความตกลงทั้ง 20 บทโดยคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลาเพียงพอในการดำเนินกระบวนการภายในของตนเองให้เสร็จสิ้นเพื่อให้ทั้ง 15 ประเทศ สามารถลงนามร่วมกันได้ในปี 2563ตามที่ผู้นำตั้งเป้าไว้โดยในส่วนของไทยจะต้องดำเนินการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี


นางอรมน กล่าวว่า  กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้กำหนดแผนการทำงานเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจประชาชนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเรื่องความตกลงอาร์เซ็ปดังนี้ 1. จัดประชุมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนภาคประชาสังคม และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 14พฤศจิกายน 2562 ณ กระทรวงพาณิชย์เพื่อให้ข้อมูลสำคัญที่ได้จากการเจรจา รวมทั้งมติของที่ประชุมผู้นำอาร์เซ็ปเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562และหารือการเตรียมการของฝ่ายไทย โดยมีนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยระดับเจ้าหน้าที่เป็นประธานการประชุม  2. จัดสัมมนาใหญ่เรื่องอาร์เซ็ปในวันที่16 ธันวาคม 2562ที่กรุงเทพฯ และลงพื้นที่จัดสัมมนาในต่างจังหวัดทั้ง 4ภูมิภาค (เชียงใหม่ สงขลา อุดรธานี และชลบุรี) ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลความตกลงให้ประชาชนได้รับทราบรวมถึงการเตรียมตัวใช้ประโยชน์จากความตกลงทุกมิติและการปรับตัวจากผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

 

               อย่างไรก็ตาม แม้อินเดียจะยังไม่เข้าร่วมปิดดีลความตกลงอาร์เซ็ปในขั้นนี้  แต่ความตกลงอาร์เซ็ป ที่มีสมาชิก 15ประเทศ ยังคงเป็นความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ฉบับใหญ่ที่สุดในปัจจุบันเนื่องจากมีประชากรรวมกันกว่า 2,200 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 30ของประชากรโลก มีมูลค่า GDP กว่า 24.5ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 28.96ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 10.7ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 27.22 ของมูลค่าการค้าโลก โดยในปี 2561ไทยกับประเทศสมาชิก  อาร์เซ็ป 15ประเทศ มีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 2.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 57.31ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกกว่า 1.41แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 55.79 ของการส่งออกรวมของไทยและมีมูลค่านำเข้าจากประเทศสมาชิกกว่า 1.45 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น ร้อยละ 58.74ของการส่งออกของไทย


"อาร์เซ็ปจะช่วยสร้างแต้มต่อลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ประสานกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าส่งผลให้มีการยอมรับกฎเกณฑ์ด้านมาตรฐานต่างๆ ระหว่างกันและสร้างความเชื่อมโยงระหว่างห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาคและในโลกซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในประเทศสมาชิกในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิก่อสร้าง ค้าปลีก ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์และบันเทิงประเภทเทคนิคตัดต่อภาพและเสียง การผลิต แอนนิเมชั่น นอกจากนี้อาร์เซ็ปจะช่วยสร้างโอกาสการส่งออกของไทยในตลาดใหม่ๆ ที่การทำเอฟทีเอ ระหว่างไทยอาเซียน และสมาชิกอาร์เซ็ปในช่วงที่ผ่านมายังเปิดตลาดไม่มากพอโดยสินค้าที่คาดว่าไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่สมาชิกอาร์เซ็ปเปิดตลาดเพิ่มเติมให้ไทยจากเอฟทีเอที่มีอยู่ในปัจจุบันเช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติกและเคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ยางล้อเส้นใย สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์แป้งมันสัมปะหลัง และกระดาษ เป็นต้น"

logoline