svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ปิดม่านอาเซียน "ประยุทธ์" ย้ำ "ความไว้เนื้อเชื่อใจ"

04 พฤศจิกายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ ห้อง Grand Diamond Ballroom ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

วันนี้ (4 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอาเซียน ได้กล่าวถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีปิดการประชุมว่า ในช่วงที่ผ่านมา อาเซียนกับภูมิภาคได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิยุทธศาสตร์ ความตึงเครียดทางการค้า เทคโนโลยีก้าวกระโดด อาชญากรรมข้ามชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำ และความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างสังคมในภูมิภาค ไทยจึงได้เสนอแนวคิดหลักของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ คือ "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" โดยเรามุ่งหวังให้อาเซียนก้าวสู่อนาคตอย่างมีพลวัต ใช้ประโยชน์
จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนและความเชื่อมโยงทั้งภายในภูมิภาคและกับประชาคมโลก และสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ในการนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการสนับสนุนแนวคิดหลักดังกล่าวตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งความร่วมมือของเราได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
ประการแรก ประชาชนจะมีความมั่นคงที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่มีการแข่งขันเพิ่มเติม ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นและภัยคุกคามต่าง ๆ ที่ท้าทายอาเซียนและภูมิภาค โดยเมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ผู้นำอาเซียนได้รับรองเอกสารมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นวิถีทัศน์ของอาเซียนต่อการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์เพื่อลดการแข่งขันและการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจในภูมิภาค อาเซียนได้จัดตั้งกลไกที่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา ด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ และหวังว่าบทบาทของอาเซียนในเรื่องนี้จะดำเนินการได้ต่อไปเพื่อช่วยในเรื่องการส่งกลับผู้พลัดถิ่น ดังนั้น อาเซียนได้วางรากฐานสำหรับการมีความไว้เนื้อเชื่อใจในเชิงยุทธศาสตร์ที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของภูมิภาคต่อไป
ประการที่สอง ความร่วมมือในอาเซียนในปีนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและรองรับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าและข้อพิพาททางเศรษฐกิจระหว่างคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน โดยการสรุป ผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป (RCEP) ตามแถลงการณ์ร่วมของผู้นำเกี่ยวกับอาร์เซ็ป เป็นการผนึกกำลังของกลุ่มประเทศซึ่งมี GDP รวมกัน 32% ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึง 30% ของการค้าโลก โดยอาเซียนจะได้ประโยชน์จากการที่ประเทศคู่ค้าเปิดตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาเซียนจะได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมจากการเชื่อมโยง ASEAN Single Window ให้ครบทั้ง 10 ประเทศในปีนี้ การสรุปข้อตกลงยอมรับร่วมผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน การริเริ่มการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมง IUU และการจัดทำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตลาดทุนอาเซียน เป็นต้น นอกจากนี้ ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการผลักดันการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียมีความสอดคล้องกับแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. 2025 บนพื้นฐานของความเป็นแกนกลางของอาเซียน ซึ่งอาเซียนได้ประกาศโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียน 19 โครงการที่ธนาคารโลกได้พิจารณาแล้วว่ามีศักยภาพที่ภาครัฐและเอกชนน่าจะมีความสนใจที่จะลงทุนร่วมกัน

ประการที่สาม อาเซียนได้ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะร่วมมือในประเด็นด้านสังคมและวัฒนธรรม อาทิ การต่อต้านขยะทะเล การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ ของเด็ก โดยเฉพาะความเข้มแข็งด้านการศึกษาให้เด็กและเยาวชนที่ตกหล่น นอกจากนี้ เราได้เสริมสร้างอัตลักษณ์ของอาเซียน โดยไทยได้ประกาศปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน 2562 และสนับสนุนให้อาเซียนร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่าเวิล์ดคัพ ในปี 2577 เพื่อให้ชาวอาเซียนมีความภาคภูมิใจต่อความเป็นอาเซียนร่วมกัน และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านฟุตบอลในภูมิภาคเพื่อสุขภาพและการเป็นนักกีฬาของคนทุกวัยในอาเซียน โดยเฉพาะภายหลังการลงนาม MOU ระหว่างฟีฟ่ากับอาเซียนเมื่อสองวันที่ผ่านมา
ประการสุดท้าย ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการผนึกกำลังร่วมมือทั้งภายในอาเซียนและกับภาคีภายนอกของอาเซียนเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้นำอาเซียนได้รับรองเอกสารวิสัยทัศน์ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการสานต่อความยั่งยืนในทุกมิติ อีกทั้งเราได้จัดตั้งศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่กรุงเทพฯ เพื่อสนับสนุนงานในด้านนี้ โดยในปัจจุบันมีนอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สหภาพยุโรป สหประชาชาติ ธนาคารโลก มูลนิธิเอเชีย และมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ที่แสดงความสนใจที่จะพัฒนาโครงการที่เป็นรูปธรรมกับศูนย์ดังกล่าว บนพื้นฐานของแผนงานการส่งเสริมข้อริเริ่มความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ

ปิดม่านอาเซียน "ประยุทธ์" ย้ำ "ความไว้เนื้อเชื่อใจ"

ศูนย์อาเซียนทั้งเจ็ดที่ตั้งขึ้นหรือยกระดับที่ไทยในปีนี้ถือเป็นสิ่งที่ไทยมอบให้กับอาเซียนเพื่อการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โดยจะรองรับประเด็นต่าง ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในด้านความมั่นคงด้านไซเบอร์ การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ สังคมสูงวัย การแพทย์ทหาร สังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม วัฒนธรรม และความยั่งยืน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มีความมั่นใจว่า เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิเพื่อสานต่อ มีความมั่นใจว่า เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิเพื่อสานต่อ ฝันของอาเซียนในการร่วมมือ ร่วมใจ ให้เกิดสันติภาพ เสรีภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้อาเซียนในปัจจุบันและให้กับชนรุ่นหลังของเราสืบไป โดยขอฝากไว้ว่าการสร้างความยั่งยืนในอาเซียนต่อจากนี้
จำเป็นต้องมี 3Cs คือ Continuity, Complementarity และ Creativity เราตระหนักดีว่า เป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ภายในปีเดียว เราจึงต้องมี C ตัวแรก ได้แก่ Continuity กับข้อริเริ่มที่สำคัญจากปีก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนกับโลกของฟิลิปปินส์ในปี 2560 หรือการพัฒนาเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียนของสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัย C ตัวที่สอง ได้แก่ Complementarity จากความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ ของเราโดยมีข้อริเริ่มที่เกื้อกูลกันอย่างต่อเนื่องในเรื่องการส่งเสริมความยั่งยืนหรือการสร้างความเชื่อมโยงในอาเซียนที่ไร้รอยต่อ เป็นต้น สุดท้ายนี้ เราจะต้องใช้ C ตัวที่สาม ได้แก่ Creativity ในการแก้ปัญหาที่คั่งค้างในอาเซียนและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ภายใต้การปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 และการส่งเสริมนวัตกรรมจาก MSMEs, startups และข้อริเริ่มอื่น ๆ จากชนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นอนาคตของอาเซียน
"ผมขออวยพรให้เวียดนามและอาเซียนประสบความสำเร็จต่อไปในปีหน้า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว และจากนั้นได้ทำพิธีส่งมอบประธานอาเซียนให้กับ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

logoline