มนุษย์เงินเดือนหน้าสั่น! ลุยเพิ่มฐานคนเสียภาษีเป็น 14 ล้านคน

วันนี้ (4 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารกรมสรรพากรทั่วราชอาณาจักร ประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรม จัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมาย 9,310 ล้านบาท จากเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเกินเป้าครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นผลมาจากการพัฒนาระบบเทคโนโลยี ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ ส่งผลให้สามารถขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เพิ่มขึ้นเป็น 11.7 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีผู้เสียภาษี 10 ล้านคน

ดังนั้นจึงเชื่อว่าในปีงบประมาณ 2563 จะจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.116 ล้านล้านบาท ได้ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้เข้าสู่ระบบภาษีให้ได้ 14 ล้านคน และขยายฐานการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เพิ่มเป็น 600,000 ราย จากปัจจุบันมีนิติบุคคลอยู่ในระบบฐานภาษี 460,000 ราย ซึ่งอีกเกือบ 200,000 รายที่จะนำเข้ามาสู่ระบบภาษีนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย

โดยส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบฐานภาษีมากขึ้น และมีการใช้จ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น 
กรมสรรพากร จึงมีนโยบายในการจูงใจด้วยการจัดกลุ่มผู้ประกอบการชั้นดี โดยหากผู้ประกอบการรายใดโอนเงินจากการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 70-80% ของรายได้ทั้งหมด จะถูกจัดเป็นลูกค้าชั้นดี ซึ่งได้รับได้ผลตอบแทนด้วยการได้สิทธิ์คืนเงินภาษีเร็วขึ้นกว่าปกติ

ทั้งนี้ปัจจุบันรายได้จากการจัดเก็บภาษีเกือบ 80% ของกรมสรรพากรอยู่ที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยในจำนวน 460,000 รายนั้น แบ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีรายได้เกิน 2,000 ล้านบาท มีอยู่ทั้งสิ้นกว่า 2,000 ราย คิดเป็น 0.46% ของผู้ประกอบการทั้งหมด มีอัตราการชำระภาษีอยู่ที่ 2.42 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 64% ของรายได้ภาษีจากนิติบุคคลทั้งหมด และผู้ประกอบการขนาดกลางที่มีมีรายได้ 500-2,000 ล้านบาท มีจำนวนกว่า 59,000 ราย หรือ 1% ของผู้ประกอบการทั้งหมด มีอัตราการชำระภาษีอยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 15% ของรายได้ภาษีจากนิติบุคคลทั้งหมด