โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถือเป็นรถไฟฟ้าสายหลักที่เชื่อมโยงการเดินทางระหว่างชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงการเดินทางเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเดินรถระบบรางแห่งใหม่ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางไปกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟความเร็วสูง เบื้องต้นอัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 14-47 บาท/เที่ยว
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงถือเป็นการต่อยอดการพัฒนาระบบรางของประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรภายในเมืองใหญ่ หรือการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าระหว่างเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถใช้เป็นกลไกในการพัฒนาประเทศ เพื่อสนองนโยบายการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดต้นทุนค่าขนส่ง และโลจิสติกส์ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบขนส่งทางรางของไทยมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างยั่งยืนได้
ด้านวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุ การรถไฟฯ ได้รับมอบรถไฟฟ้า จำนวน 10 ตู้ ซึ่งเป็นขบวนรถโดยสารชุดแรกจากทั้งหมด 25 ขบวน โดยขบวนรถไฟฟ้าที่เหลือจะทยอยเดินทางมาจนครบทั้งหมดภายในกลางปี 2563 หลังจากนั้นจะดำเนินการทดสอบขบวนรถให้แล้วเสร็จ และทดสอบการวิ่งให้บริการเสมือนจริง ก่อนที่จะเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์เดือน ม.ค.ปี 2564
สำหรับรายละเอียดของรถไฟฟ้า ผลิตโดย บริษัท ฮิตาชิ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดขบวนรถ 2 แบบ แบบ 6 ตู้ต่อขบวน และแบบ 4 ตู้ต่อขบวน สามารถทำความเร็วสูงสุดในการออกแบบได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุดในการบริการ 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถจุผู้โดยสารในขบวน 6 ตู้ ได้ 1,710 คน และขบวน 4 ตู้ ได้ 1,120 คน
เมื่อโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ- รังสิต เปิดให้บริการ จะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตสู่บางซื่อไม่น้อยกว่า 306,608 คน/วัน และช่วยเชื่อมต่อการเดินทางกับโครงข่ายคมนาคมรูปแบบอื่นๆ ของประเทศ ให้มีความสะดวก รวดเร็วและคล่องตัว ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการคมนาคมทางราง ที่สำคัญยังเป็นส่วนสำคัญที่จะยกระดับระบบรางของไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนในอนาคตด้วย
ธนัญญา นาคเงิน เนชั่นทีวี รายงาน