เสรีรวมไทยย้ำ! เชิญนายกฯพบ กมธ.ปปช. "ทำหน้าที่ในระบบรัฐสภา"

คือ 1.) การเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เกี่ยวข้องกับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างไร 2.) การถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องของรัฐบาล 3.) สภาผู้แทนราษฎรเองก็เคยเห็นชอบร่างกฎหมายที่รัฐบาลเคยเสนอมาแล้ว เช่น พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์มาชี้เเจงกับกมธ.นั้นไม่ได้ต้องการจะใช้กมธ.เป็นเวทีเล่นการเมือง หรือ ดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ ตามที่ถูกนักการเมืองบางคนกล่าวหา
รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การเชิญพล.อ.ประยุทธ์นั้นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ิมองว่าเป็นการทำหน้าที่ประธานกมธ.ตรวจสอบความไม่ถูกต้องในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องที่มีการร้องเรียนจากประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพ ที่มีการร้องเรียน กมธ.เข้ามามาก จน พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ต้องการที่จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพิ่มขึ้นอีก โดยไม่เอาเบี้ยประชุมของสภาฯ
"ตอนนี้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เหมือนความหวังของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 แห่งความยุติธรรม เวลาชาวบ้านมีปัญหาเดือดร้อน จะนึกถึงพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ จนมีวาระที่ต้องดำเนินการหารือเยอะ ไม่ได้จ้องเฉพาะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด สามารถดูจากวาระการประชุมได้ จึงเป็นที่มาของการทำงานที่หนักของ กมธ. ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ที่ส.ส.บางท่านอาจไม่สะดวกที่จะทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งเชื่อว่าพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ก็พร้อมที่จะรับฟังและปรับเปลี่ยนการทำงาน หากมีการพูดคุยกัน" นางสาวนภาพรกล่าว
รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าดังนั้นการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาชี้แจงใน กมธ.ปปช.นั้น เป็นการเชิญตามปรกติ และเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ กมธ.เหมือนกับที่กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯเคยเชิญ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เข้าไปพูดคุยถึงเรื่องที่ยังเข้าใจไม่ตรงกัน เมื่อผบ.ทบ.ให้ความร่วมมือ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวล
"จึงไม่อยากให้มองการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแค่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างทำไปตามหน้าที่ของตัวเองตามระบบรัฐสภามากกว่า"