นายวันชัย เจียรวัฒนาวิทย์ รองผู้ว่าการ MEA ในฐานะผู้แทนเข้ารับรางวัล กล่าวว่า MEA มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เหนือสิ่งอื่นใด คือประโยชน์และความสะดวกสบายที่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จะได้รับจากการใช้บริการต่าง ๆ จาก MEA ไม่ว่าจะเป็นบริการขอใช้ไฟฟ้า ผ่านทาง MEASY บริการตรวจสอบและชำระค่าไฟฟ้า บริการแจ้งเตือนชำระค่าไฟ บริการตรวจสอบค่าไฟฟ้าย้อนหลัง บริการรับแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง บริการข้อมูลข่าวสาร ผ่านทาง MEA Smart Life Application บริการติดตามงานขอใช้บริการ (MEA Service Tracking) บริการดาวน์โหลดใบแจ้งค่าไฟฟ้าและใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ผ่านทาง Website รวมถึงบริการค้นหาจุดชาร์จรถ และสั่งจองหัวชาร์จ แบบเรียลไทม์ ผ่านทาง MEA EV Application
รองผู้ว่าการ MEA กล่าวต่อไปว่า จากการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ MEA นอกจากการได้รับรางวัลในครั้งนี้แล้ว MEA ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2020) ประจำปี พ.ศ. 2563 ด้านความสะดวกด้านการขอใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยพัฒนารวดเร็วโดดเด่นขึ้นอย่างมาก โดยคะแนนการประเมินเพิ่มจาก 98.57 เมื่อปี พ.ศ. 2562 มาเป็น 98.70 ในปี พ.ศ. 2563 รักษาตำแหน่งเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งผลคะแนนดังกล่าว เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยยกระดับภาพรวมความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 27 ของปี 2562 เป็นอันดับที่ 21 ของโลก ถือเป็นการเลื่อนขึ้นถึง 6 อันดับ
อย่างไรก็ตาม MEA พร้อมเดินหน้าพัฒนางานบริการเพื่อผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างครบวงจร มุ่งสู่ Thailand 4.0 รองรับ Lifestyle และเทคโนโลยีแห่งอนาคต มอบความสะดวก สบาย ความรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพวิถีชีวิตเมืองมหานคร