svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

"เฟด" ลดดอกเบี้ยรอบ 3 ย้ำ ศก.สหรัฐฯ ยังปึ้ก!

31 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ประกาศ "ลด" อัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% โดย ประธานเฟด ออกมาระบุว่า "เฟดจะกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเงินเฟ้อขยับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นั่นทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาอ่อนค่าและเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ"

วันนี้ (31 ต.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ประกาศ "ลด" อัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดหมาย แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความสำคัญที่เคยระบุว่า เฟดจะดำเนินการตามความเหมาะสม (Act as Appropriate) เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งบ่งชี้ว่า เฟดอาจจะระงับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อจากนี้ การตีความท่าทีดังกล่าวของเฟดส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะ 1,480.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี เกิดแรงซื้อหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในที่สุดหลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ออกมาระบุว่า เฟดจะกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเงินเฟ้อขยับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นั่นทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาอ่อนค่าและเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

"เฟด" ลดดอกเบี้ยรอบ 3 ย้ำ ศก.สหรัฐฯ ยังปึ้ก!

ในส่วนของตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นขานรับถ้อยแถลงดังกล่าวเช่นกัน โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา 115.27 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.43% ปิดที่ 27,186.69 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 9.88 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 3,046.77 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 27.12 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 8,303.98 จุด

ทั้งนี้ เฟด ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาเหลือ 1.50% และ 1.75% พร้อมกับมีการตัดคำว่า "เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อประคับประคองการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" ออกไป ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า เฟดเชื่อว่านโยบายทางการเงินอยู่ในสถานะที่ดี บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ซึ่งคำแถลงนี้ช่วยดันหุ้นวอลล์สตรีทขยับขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย
การลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2562 และเป็นส่วนหนึ่งของการปรับนโยบายในช่วงกลางวัฎจักร หรือ midcycle adjustment ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มอิ่มตัว ทำให้ตลาดตีความว่าวงจรลดดอกเบี้ยของเฟดจะไม่ครอบคลุมระยะเวลายาวนาน ทั้งนี้ ตลาดให้น้ำหนักความเป็นไปได้ไว้เพียง 25% สำหรับการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมรอบหน้าของเฟดระหว่างวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้ ผู้บริหารของเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศยังมีการขยายตัวอยู่ในระดับสูง  แต่ก็ยอมรับว่ามีปัจจัยลบจากภายนอก เช่น ภาวะขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่แผ่วลง การค้าจีน-สหรัฐฯที่ยังเผชิญหน้ากันอยู่และยังไม่แน่นอน ประกอบกับผลกระทบจากการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท)ที่ยังไม่อาจคาดเดา
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของเฟดยังชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวในระดับปานกลาง แม้ว่าการลงทุนของภาคธุรกิจและภาคการส่งออกจะยังคงอ่อนแรงก็ตาม

"เฟด" ลดดอกเบี้ยรอบ 3 ย้ำ ศก.สหรัฐฯ ยังปึ้ก!

การตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยของเฟดมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่สหรัฐฯประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงสู่ระดับ 1.9% แต่ก็ยังคงสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่มองว่าจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ของสหรัฐฯล่าสุดน่าจะโตเพียง 1.6%ทั้งนี้ แม้สถิติการจ้างแรงงานใหม่จะยังคงชะลอตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีจำนวนเหนือระดับ 109,000 ตำแหน่งซึ่งเป็นตัวเลขที่เฟดสาขาแอตแลนตาคำนวณเอาไว้ว่าเป็นระดับตัวเลขการจ้างแรงงานใหม่ที่จะช่วยให้สหรัฐฯสามารถคงอัตราการว่างงาน(เฉลี่ยรายปี)เอาไว้ที่ 3.5% ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 50 ปี
ข่าวระบุว่า 3 ตัวแปรที่บ่งชี้ความแข็งแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯในเวลานี้คือ ตลาดแรงงาน การจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และตลาดหุ้นที่ยังคงเป็นไปในทิศทางบวก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของเฟด ได้มีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องที่ว่าเฟดจำเป็นจะต้องลดดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่ โดยนายเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดระดับภูมิภาค (จากแคนซัส ซิตี้) และนายเอริค โรเซนเกร็น ประธานเฟดจากบอสตัน เป็นฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน แรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งต้องการให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องลงไปอีก ก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง และเขาต้องการให้เฟดนำมาตรการการเงินเชิงผ่อนคลาย (คิวอี) มาใช้อีกเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เฟดยังเริ่มมาตรการซื้อพันธบัตรรัฐบาลอีกครั้ง แม้เจ้าหน้าที่จะออกมาระบุว่าเป็นเพียงมาตรการที่ทำเพื่อรักษาระดับของดอกเบี้ยเฟด ฟันด์ เรต ให้อยู่ในระดับเป้าหมายเท่านั้น ไม่ใช่การรื้อฟื้นมาตรการคิวอีมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนเมื่อช่วงที่สหรัฐฯต้องรับมือกับวิกฤติการเงิน

logoline