สืบเนื่องมาจากกรณีการพบ 39 ศพในรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่อังกฤษ ที่จอดอยู่นิคมอุตสาหกรรม 30 กิโลเมตรห่างจากกรุงลอนดอนไปทางทิศตะวันออกตำรวจ เปิดเผยว่า ตู้คอนเทนเนอร์ เดินทางมาทางทะเลจากเมืองซีบรุกก์ ของเบลเยี่ยม และมาขึ้นฝั่งที่เมืองเพอร์ฟลีต ในเอสเซ็กส์ ของอังกฤษเมื่อคืนวันอังคาร และในอีกประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา ในเวลาประมาณ ตี 2 เจ้าหน้าที่รถพยาบาลได้ติดต่อตำรวจให้มาที่รถบรรทุกที่จอดอยูู่ในนิคมอุตสาหกรรมใกล้กับเมืองเกรย์ส
สำหรับคนขับวัย 25 ปี จากไอร์แลนด์เหนือถูกจับเพราะต้องสงสัยเรื่องการฆาตกรรม มีการระบุว่าเขาชื่อมอร์ริส โรบินสัน ปัจจุบันทางการกำลังสอบปากคำเขาอยู่หลังจากที่มีการเปิดเผยเรื่องการพบศพ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ประกาศจะไล่ล่าคนที่มีส่วนร่วมกับอาชญากรรรมครั้งนี้ และนำตัวมาขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรมด้านตำรวจอังกฤษบอกว่าตอนนี้ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับการค้นหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร มาจากที่ไหน โดยมีการเปิดสายที่รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ที่คิดว่าคนเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่พวกเขารู้จักขณะที่หลายฝ่ายมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เกี่ยวข้องกับปัญหาการค้ามนุษย์ และเรียกร้องให้มีการนำคนผิดมาลงโทษ แต่ตำรวจยังไม่ยืนยันเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าตู้คอนเทนเนอร์มรณะนี้ น่าจะเป็นตู้เย็น ซึ่งหมายความว่าอุณหภูมิภายในอาจจะเย็นถึงติดลบ 20 หรือ 23 องศาเซลเซียสก็เป็นได้ ทำให้เป็นเรื่องยากที่คนที่ติดอยู่ภายใน จะรอดชีวิตหากไม่มีอุปกรณ์กันความหนาวเย็นอย่างดีขณะที่ทางการไอร์แลนด์ , ไอร์แลนด์เหนือ และบัลแกเรีย ก็มีความตื่นตัวที่จะค้นหาความจริงในเรื่องนี้ ในช่วงที่ทางการอังกฤษกำลังตรวจสอบเส้นทางของตู้คอนเทนเนอร์ก่อนที่จะมายังอังกฤษ
ล่าสุดทางตำรวจ เปิดเผยว่า กำลังตามหาตัวโรแนน ฮิวจ์ วัย 40 ปี และ คริสโตเฟอร์ ฮิวจ์ วัย 34 ปี น้องชายของเขา โดยทั้งคู่ ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในเมืองอาร์มาจ ในไอร์แลนด์เหนือ ก็มีญาติอยู่ในไอร์แลนด์ด้วย
ทั้งสองเป็นที่ต้องการตัวเพราะต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีการฆ่าคนตาย และค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่บอกว่าการได้สอบปากคำคนทั้งสอง ถือเป็นส่วนสำคัญในการสอบสวนคดีนี้
สำหรับคนที่ 3 มัวริส โรบินสัน วัย 25 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถคันที่เกิดเหตุ และถูกจับกุมแล้ว ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย 39 กระทง รวมถึงการฟอกเงิน สมรู้ร่วมคิดในการสนับสนุนเรื่องการอพยพผิดกฏหมาย และสมรู้ร่วมคิดในการลักลอบค้ามนุษย์