ศาลอนุญาตฝากขัง "หนุ่มแฮกเว็บชิมช้อปใช้" แล้ว

30 ต.ค.62 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ควบคุมตัว "นายธีรณัฐ มหัทธโนบล" อายุ 19 ปี ชาว จ.ปัตตานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 606/2562 ลงวันที่ 27 ต.ค.62 คดีทำระบบลงทะเบียนโครงการชิม ช้อป ใช้ หน่วงเวลาเพื่อให้ได้สิทธิลงทะเบียน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 10 พ.ย.นี้

เนื่องจากกระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานอีก 4 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลางในคดี กับผลตรวจพิมพ์มือผู้ต้องหา โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วยเนื่องจากเป็นคดีที่อัตราโทษสูง หากให้ประกันเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องฝากขังพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.62 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้เสียหาย มอบอำนาจให้ นายกิตติ งามศิลปะเสถียร เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อเดือน ต.ค.62 รัฐบาลมีโครงการชิมช้อปใช้ และรัฐบาลมอบหมายให้ ธ.กรุงไทยฯ เป็นผู้จัดทำระบบคอมพิวเตอร์ จัดทำเว็บไซต์เพื่อเปิดรองรับการลงทะเบียนของประชาชน ต่อมาวันที่ 24 ต.ค. มีการเปิดให้ประชาชน ลงทะเบียน "ชิมช้อปใช้ เฟส 2 " เมื่อเปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนลงทะเบียนปรากฏว่าระบบขัดข้องล่าช้า ทำให้ประชาชนไม่สามารถลงทะเบียนได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของธนาคารฯ
จึงทำการตรวจสอบพบเว็บไซต์ ชื่อ www.understop.com กดเข้าคิวลงทะเบียนชิมช้อปใช้ จำนวนหลายครั้งติดต่อกัน จากการวิเคราะห์พบว่า เป็นเพราะเว็บไซต์ดังกล่าวที่ทำให้การทำงานของเว็บ "ชิมช้อปใช้" ทำงานหน่วงเวลา ระบบทำงานผิดปกติ จึงได้ตรวจสอบที่มาของ www.understop.com พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเฟซบุ๊กของนายธีรณัฐ ผู้ต้องหา และเมื่อวันที่ 6 ต.ค.62 เวลา 02.02 น. ได้มีการโพสต์ต้นฉบับหรือโค้ดโปรแกรมของ www.understop.com ลงบนหน้าเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา

ซึ่งมีไว้สำหรับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ชิมช้อปใช้ โดยมีเจตนาทุจริต เพื่อให้มีโอกาสลงทะเบียนมากกว่าประชาชนทั่วไปจนได้สิทธิการลงทะเบียน ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อระบบในภาพรวมจะทำให้ประชาชนและทางธนาคารฯ ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ ธ.กรุงไทย สำนักงานใหญ่ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. ซึ่ง พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหากระทำการโดยมิชอบ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ขัดขวาง หรือ รบกวน จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 10 โดยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา