ประวิตร มั่นใจ การรักษาความปลอดภัย อาเซียน กู้หน้า 10 กว่าปีก่อนได้

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาตรวจความพร้อมการรักษาความปลอดภัยสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องทั้งนี้ มีการบรรยายสรุปแผนปฏิบัติการในพื้นที่ของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
การสาธิตการรักษาความปลอดภัยวีไอพีในภาวะปกติ โดยตำรวจสันติบาล
การสาธิตการรักษาความปลอดภัยวีไอพี กรณีมีสิ่งบอกเหตุมีแนวโน้มว่าจะเกิดภัยคุกคาม โดยตำรวจสันติบาลและอรินทราช 26
การสาธิตการสกัดกั้นและจับกุมผู้ก่อเหตุ-วัตถุต้องสงสัย โดยตำรวจนเรศวร 261 และตำรวจนครบาล
การสาธิตช่วยเหลือบุคคลสำคัญออกจากพื้นที่การประชุม โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล หรือ ศตก. กองทัพไทย

ซึ่งการรักษาความปลอดภัยงานประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 10,000 นายด้านพลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับมอบหมายให้รักษาความปลอดภัย และได้มีการประชุมประชาคมข่าวจากหลายหน่วยงานเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และจัดทำข้อมูล IPB ที่มีผลกระทบต่อการประชุม

โดยแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่รอบพื้นที่ เพื่อแจ้งเบาะแสและจัดทำกลุ่ม LINE ซึ่งการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยในการประชุมแบ่งออกเป็น 3 วงรอบคือ พื้นที่ไข่แดง ไข่ขาว และขอบกะทะ แบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน มีกำลังปฏิบัติงานทั้งสิ้น 4869 นายโดยเฉพาะพื้นที่จัดการประชุมใช้กำลังทั้งสิ้น 2669 นาย ปฎิบัติหน้าที่จุดตรวจ สายตรวจรถยนต์ สายตรวจประจำจุด พื้นที่สูงข่ม กำลังชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน

นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีกล้องซีซีทีวีจดจำใบหน้า และทะเบียนรถในพื้นที่ทั้ง 5 โซน ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อผู้เข้าร่วมประชุม ก็ได้จัดพื้นที่โซนปลอดภัยไว้ทั้งในที่ประชุมและนอกพื้นที่ประชุม พร้อมทำแผนเผชิญเหตุตั้งแต่เบาไปหาหนัก และซักซ้อมแผนต่างๆไว้เรียบร้อย

พลเอก ประวิตร กล่าวให้โอวาท ว่า การซักซ้อมในวันนี้มีความพร้อมเพรียง ทำให้ตนเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนจะสามารถทำให้เกิดความปลอดภัยในการประชุมที่จะมาถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของรัฐบาล และที่สำคัญจะส่งผลให้ผู้นำประเทศ และผู้เข้าร่วมประชุม ได้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย ที่จะนำพาประเทศไปสู่การประชุมและการจัดงานที่สำคัญในระดับชาติและระดับโลกต่อไป พร้อมขอให้ทุกคนนำบทเรียนจากการซักซ้อมในวันนี้ ไปปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความพร้อมรับและตอบโต้ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด ขอให้กำลังใจทุกคนและขอให้การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะถือเป็นภารกิจที่สำคัญ ซึ่งเราเคยสูญเสียมาแล้ว

แต่ครั้งนี้เรามีความพร้อมให้ความปลอดภัยกับผู้นำประเทศ จึงเชื่อมั่นและมั่นใจว่าทุกคนจะทำงานสำคัญนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอฝากประเทศไทยกับทุกคนด้วย และเชื่อว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องเป็นห่วงเมื่อถามว่า ที่บอกให้นำบทเรียนในอดีตมาเป็นประสบการณ์ หมายความว่าด้านการข่าวมีการแจ้งเตือนหรือไม่ พลเอก ประวิตร ย้ำว่า ไม่มี และเชื่อว่าจะสามารถกู้หน้าการประชุม 10 กว่าปีที่แล้วได้ ซึ่งจากการฝึกซ้อมในวันนี้ตนมีความเชื่อมั่นในผู้ใต้บังคับบัญชา