วันนี้ (29 ต.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในช่วงเช้าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันเดียวกันนี้ว่า ยังไม่ทราบว่านายกฯมีประเด็นอะไรจะหารือ แต่หากเรื่องใดมีปัญหาก็คงจะหยิบยกมาพูดคุยกัน
เมื่อถามว่าจะมีการหารือกรณีที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรทางการค้า (จีเอสพี) นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหารือกัน แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องกังวล ส่วนในเรื่องการแบน 3 สารพิษนั้น เราทำด้วยความเป็นห่วงสุขภาพประชาชนและอนาคตของชาติ เพื่อไม่ให้มีสารปนเปื้อน เพราะจากการพิสูจน์ 3 สารพิษไม่ได้มีประโยชน์ใดๆและไม่มีอะไรที่เราต้องไปกลัว รวมถึงอย่าเอาเรื่องจีเอสพีไปผูกโยงกับเรื่องสารพิษเพราะเป็นคนละเรื่อง สำหรับการแบนสารพิษนั้นคิดว่านายกฯคงทราบแล้ว และตนก็ได้รายงานผ่านทางไลน์ของ ครม. ไปก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มเกษตรกรไปยื่นศาลปกครองให้ระงับการแบน 3 สารพิษ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ โดยนำข้อเท็จจริงมาแสดง และยืนยันว่าการแบน 3 สารพิษจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เนื่องจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีมติไปแล้ว ไม่สามารถยืดหรือผ่อนปรนได้ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะผิดพลาดไปหมด
อีกทั้งคณะกรรมการฯดังกล่าวก็อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะกิจ ซึ่งมีขั้นตอนในการดำเนินการทุกอย่างเมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขยายออกกรอบเวลาการแบนสารพิษจากที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ไปอีก 6 เดือน นายอนุทิน กล่าวย้ำว่าทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว นอกจากว่าจะมีการเขียนในบันทึกในบันทึกการประชุม แต่คิดว่าก็น่าจะมีคณะกรรมการฯโต้แย้งอีก ซึ่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ระบุชัดเจนว่าคณะกรรมการฯมีมติเป็นเสียงข้างมาก ในการแบนสารพิษ
พร้อมทั้งระบุว่าสารพิษดังกล่าวไม่ได้อยู่เฉพาะแค่บนดินเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมเข้าไปยังผลผลิตของสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ ซึ่งตรงนี้คือเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการฯลงมติคัดค้านการใช้สารพิษ