"เสี่ยไก่" ยืดอกรับทั้ง 9 คดี! ไม่เคยลบโพสต์หนีเพื่อเอาตัวรอดแบบหน้าไม่อาย

จากกรณี นายวัฒนา หรือไก่ เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และสมาชิกพรรคเพื่อไทย  จำเลยที่ 1 คดีโครงการบ้านเอื้ออาทรในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 12 ก.ค.62 ต่อ องค์คณะ 9 คน ที่พิจารณาคดีดังกล่าว ขอให้ทำการไต่สวนหาผู้รับผิดชอบ กรณีที่นายวัฒนา อ้างว่าบันทึกคำให้การของพยานโจทก์ 2 ราย คือนายพรศักดิ์ บุณโยดม กับนายพิทยา เจริญวรรณ ลงวันที่ 8 ก.ค.62 ที่ยื่นต่อศาลซึ่งจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการตัดทอนข้อความให้แตกต่างจากบันทึกคำให้การของพยานทั้งสองที่ให้การไว้ต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 1 ซึ่ง อัยการโจทก์ ได้คัดค้าน แล้ว องค์คณะฯ รับคำร้องไว้ รวมทั้งคำคัดค้านของอัยการโจทก์ ที่ยื่นเข้ามาเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 62 ที่ผ่านมาแล้วนั้น
โดย เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา องค์คณะฯ ได้พิเคราะห์คำร้องของจำเลยที่ 1 ประกอบคำคัดค้านของอัยการโจทก์แล้ว เห็นว่า ในชั้นยื่นฟ้องคดี โจทก์ได้ส่งสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ต่อศาล เพื่อใช้เป็นหลักในการพิจารณาและรวมไว้ในสำนวน ซึ่งรวมถึงบันทึกคำให้การของนายพรศักดิ์และนายพิทยา โดยจำเลยที่ 1 มีสิทธิตรวจและคัดสำเนาบันทึกคำให้การของพยานทั้งสองปากดังกล่าวได้อยู่แล้ว 
สำหรับบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงของพยานทั้งสองที่ศาลให้โจทก์ยื่นต่อศาลก่อนวันไต่สวนนั้น เพียงเพื่อความสะดวกในการไต่สวนพยานปากนั้นๆ เท่านั้น กับพยานต้องมาเบิกความยืนยันประกอบบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงต่อศาลอีกครั้งหนึ่ง และอาจเบิกความเปลี่ยนแปลง แก้ไข ตัดทอนข้อความในบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ อีกทั้งในการพิจารณาพิพากษาคดีศาลต้องพิจารณาคำให้การของพยานทั้งสองที่เบิกความในชั้นพิจารณาของศาลและที่พยานให้การไว้ในชั้นไต่สวนของ คตส. ประกอบกัน กรณีจึงไม่จำต้องไต่สวนตามคำร้องของจำเลยที่ 1 จึงให้ยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีกล่าวหาการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น ปัจจุบัน องค์คณะฯ ก็ดำเนินการไต่สวนอย่างติ่เนื่องทุกสัปดาห์ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.62 โดยระหว่างนี้ยังเป็นการไต่สวนพยาน อัยการโจทก์
โดยคดีดังกล่าว อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีหมายเลขดำ อม.42/2561 และ 102/2561 ซึ่งศาลรวมพิจารณาคดีเดียวกัน ที่มี นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พม. ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร 2 , นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 25482549 , นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย , นายอภิชาติ หรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ , นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อายุ 56 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และกลุ่มเอกชน รวม 14 ราย ร่วมเป็นจำเลย 
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91
ล่าสุด นายวัฒนา เมืองสุข ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า...
ถ้ายังจำกันได้เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 ผมโพสต์ให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์แต่ถูก คสช. ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นศาลและนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 
บัดนี้ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 ได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีดังกล่าวแล้ว จนถึงขณะนี้คดีที่ผมได้รับในสมัย คสช. รวม 9 คดี จบในชั้นศาลแล้ว 5 คดี อัยการสั่งไม่ฟ้อง 2 คดี คงเหลืออีก 2 คดีที่ยังต้องสู้กันต่อไปโดยไม่มีการเจรจาและทุกเรื่องที่โพสต์ไปก็ไม่เคยลบโพสต์หนีเพื่อเอาตัวรอดแบบหน้าไม่อาย ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ
วัฒนา เมืองสุข
29 ตุลาคม 2562