ชนสนั่น!บนด่วนบูรพาวิถี "มินิบัส" ชน "หนุ่มดูอาการรถไหล่ทาง" ดับ!

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม พ.ต.ท.ชำนาญ พุทธเครือ สว.(สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2 บก.จร. รับแจ้งอุบัติเหตุบนทางด่วนบูรพาวิถี ขาออก กม.ที่ 4+500 มุ่งหน้าชลบุรี มีผู้บาดเจ็บหลายรายและมีผู้เสียชีวิต จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณไหล่ทาง พบรถกระบะโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ผฉ 8139 ระยอง ด้านหลังบรรทุกแท่งเหล็กจำนวนมาก ได้รับความเสียหายตั้งแต่ท้ายกระบะด้านขวา พังยับทั้งแถบ ยางแตก เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนายวิรุณ ฉิมเรือง หรือตั้ม อายุ 31 ปี สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน ใส่กางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลบริเวณใบหน้า นอนหงายเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ห่างไป 300 เมตร พบรถมินิบัสร่วม บขส. กรุงเทพ-นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน หมายเลขทะเบียน 16-2733 กรุงเทพมหานคร มีผู้โดยสารมาทั้งหมด 9 คนรวมทั้งคนขับรถ โดยเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(หมอชิต) มุ่งหน้าบ่อวิน พบความเสียหายที่บริเวณไฟหน้ารถด้านซ้าย มีคราบเลือดติดอยู่เล็กน้อย มีนายรุ่งอรุณ นาคีสัง อายุ 46 ปี เป็นผู้ขับขี่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้โดยสาร อีก 8 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

จากการสอบปากคำ นายนันทพร โคกเขา อายุ 55 ปี คนขับรถกระบะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้บรรทุกแท่งเหล็กมาจากห้าแยกลาดพร้าว เพื่อนำไปส่งที่ร้านค้าย่านบางบ่อ เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ รถ เกิดเร่งเครื่องไม่ขึ้น จึงได้จอดข้างทางก่อนที่นายวิรุณ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานได้ลงไปตรวจเช็คที่ด้านนอกรถฝั่งซ้าย ส่วนตนยืนอยู่ฝั่งขวาติดกับแบริเออร์ ขณะนั้นมีรถมินิบัสขับมาก่อนจะเฉี่ยวชนรถของตน และนายวิรุณ ซึ่งอยู่ระหว่างกำลังเดินกลับขึ้นรถทำให้เสียชีวิตทันที

ด้านนายรุ่งอรุณ เปิดเผยว่า ขณะขับมาจากสถานีขนส่งหมอชิตเพื่อไปส่งผู้โดยสารที่นิคมบ่อวิน โดยใช้ความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชม. เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถคู่กรณีจอดอยู่ด้านหน้าในเลนซ้ายสุด จึงเบี่ยงรถออกเลนขวาแต่มีรถอีกคันวิ่งมาด้วยความเร็วทำให้เบี่ยงแล้ว รถเกิดอาการส่ายก่อนที่จะไปเฉี่ยวชนกับรถกระบะทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
ขณะที่หนึ่งในผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนโดยสารมากับรถมินิบัส ซึ่งวิ่งระหว่าง หมอชิด 2-ปลวกแดง โดยนั่งอยู่ช่วงตรงกลางของรถ ระหว่างทางได้นอนหลับมาตลอดทาง จึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น โดยตนได้รับบาดเจ็บรู้สึกมึนศีรษะ ขาด้านซ้ายกระแทกกับเก้าอี้ด้านหน้า ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตอนเกิดเหตุรู้สึกตัวตื่น เพราะได้ยินเสียงดัง มองไปสังเกตุเห็นกระจกด้านข้างแตก ตอนนั้นยังไม่ได้ลงจากรถ เห็นคนขับลงไปดูเหตุการณ์ด้านล่าง ก่อนที่จะเดินย้อนกลับมาเปิดประตูให้ผู้โดยสารลงไปยืนรอด้านล่าง โดยตอนที่ลงไปเห็นรถกระบะจอดอยู่ด้านหน้าไหล่ทางสภาพพังยับ
"ตอนเกิดเหตุรู้สึกตกใจมาก แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรมาก รวมถึงลูกสาวที่เดินทางมาด้วยก็ไม่ได้บาดเจ็บมาก ก็หายตกใจ โชคยังดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากทั้งคู่ " ผู้บาดเจ็บระบุ
เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานแวดล้อมก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.