svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กางไทม์ไลน์ "ฝ่ายค้าน" ขย่มรัฐบาลถึงสิ้นปี

28 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฝ่ายค้านวางไทม์ไลน์ถล่มรัฐบาลถึงสิ้นปี เล็งชำแหละ 3 ญัตติหลังเปิดสภาต้นพ.ย. ชี้น้องๆ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งเรื่องศึกษาผลกระทบใช้มาตรา 44 คสช.-แก้ไขรัฐธรรมนูญ-รับทราบรายงานการปฏิรูปประเทศทุก 3 เดือน จากนั้นเปิดศึกซักฟอกเดือนธันวาฯ เป้าหมายหลัก "บิ๊กตู่-กระทรวงใหญ่งบเยอะ"

ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย สุทิน คลังแสง  ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ขณะนี้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อมูล จากนั้นจะมาประเมินร่วมกันว่ามีน้ำหนักสมควรที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นใดบ้าง โดยหลักๆ พรรคใดนั่งกรรมาธิการ(กมธ.)ชุดใดก็จะต้องรับผิดชอบในการอภิปรายเรื่องนั้นๆ เพราะสามารถขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้จะนัดประชุมร่วมกันอีกครั้งภายหลังเปิดสมัยประชุมสภา 1 พฤศจิกายนนี้ไปแล้ว คาดว่าจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ไม่เกินกลางเดือนธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเปิดสมัยประชุมสภา จะมี 3 วาระที่จะเข้าสู่สภา ซึ่งถือเป็นน้องๆ ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ประกอบด้วย 1.ญัตติศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ของ คสช.ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสมาชิกเตรียมพร้อมอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการกระทำที่ผ่านมาของ คสช. ทั้งจาก พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ 2.ญัตติศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ รับรองว่าอภิปรายกันสนั่นเมืองแน่นอน และ 3.รับทราบรายงานการปฏิรูปประเทศทุก 3 เดือน ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย และเขียนรัฐธรรมนูญวางกับดักตัวเอง
"รับรองว่ารัฐบาลน่วมก่อนจะไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน แม้ว่าเราจะยังไม่สามารถคว่ำรัฐบาลได้ แต่ก็ทำให้รัฐบาลราคาตกทุกครั้ง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ฝ่ายค้านได้ตลอด" นายสุทินกล่าวเลขาธิการพรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยสิ่งที่หารือส่วนใหญ่เป็นการพูดถึงสิ่งที่ดำเนินการมาแล้ว เช่น การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา รวมถึงมีการหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงเปิดสมัยประชุมสภาหลังวันที่ 1 พฤศจิกายนด้วย ซึ่งเป็นการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ หลักการของการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป้าหลักจะไปอยู่ที่นายกฯ และกระทรวงใหญ่ ที่มีงบประมาณรวมถึงบุคลากรจำนวนมาก ตอนนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านทำหน้าที่ในการตรวจสอบหาหลักฐานที่มีน้ำหนักมากที่สุด
เมื่อถามว่า มีสมาชิกพรรคบางคนบอกว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่หากรีบอภิปรายจะเร็วไปหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มองว่าไม่เกี่ยวกับเงื่อนของเวลา ถ้ารัฐบาลทำงานดีบริหารงานมีประสิทธิภาพต่อให้เวลาผ่านไปเป็นปีก็อภิปรายไม่ได้ แต่ทางกลับกันหากทำงานผิดพลาด รวมถึงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทุจริต บริหารงานไป 1 หรือ 2 เดือน ก็ต้องอภิปราย ดังนั้นการจะอภิปรายเมื่อไหร่จึงขึ้นอยู่กับหลักฐานและข้อเท็จจริง เพราะการอภิปรายจะมีผลทั้งบวกทั้งลบ ถ้าหลักฐานเราไม่แน่นพอรัฐบาลชี้แจงได้ฝ่ายค้านก็จะขาดความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าข้อมูลเราดีก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ ดังนั้นขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงอยู่ในขั้นการรวบรวมหลักฐาน หากมีน้ำหนักและข้อมูลเพียงพอเราจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ไม่ต้องรอให้ไปถึงปลายเดือนธันวาคมก็อภิปรายได้ และหลังจากเปิดสมัยประชุมสามัญวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ คงได้มีการหารือร่วมกันพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป

logoline