จากกรณีที่มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กราบหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ความยาว 21 วินาที เป็นภาพบันทึกเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างหนุ่มแกร็บไบค์ ที่ถูกวินจักรยานยนต์รุมทำร้าย ที่บริเวณใต้สถานี BTS ทองหล่อ พร้อมระบุข้อความ..
"เจอเหตุการณ์กับตัวเองจังๆ ไม่รู้เหตุการณ์ก่อนหน้าเป็นไง แต่ก็ไม่ควรใช้กำลังกันตรงใจกลางกรุงเทพ ใต้ BTS ทองหล่อพอดี ชาวต่างชาติได้แต่ตะโกนว่า Let's them stop!! น่าอายมาก เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน วินมอเตอร์ไซด์มากัน 3 คัน ล้อมน้องคนที่โดนทำร้าย ถ้าให้ทายก็น่าจะ grabbike ป่ะ เพราะถ้าเป็นอุบัติเหตุไม่น่ามาพร้อมกัน3 คันได้ แต่ถ้าเรื่องนั้นจริง คนที่ทำลายอาชีพคือพวกคุณเองน่ะแหล่ะ ใครจะกล้าขึ้นรถนักเลง เกิดไม่พอใจตี ผดส.ทำไง"จนมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก
ดูคลิปต้นฉบับ...คลิกที่นี่!!!!
ล่าสุดวันที่ 27 ตุลาคม พันตำรวจเอกนิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พ.ต.ท.เชน ศรีกรุงไกร รอง ผกก.จร.สน.ทองหล่อ ,พ.ต.ท.พงศ์ดนัย วิมุกติบุตร รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ และฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ เชิญตัวนายวรวิทย์ สว่างวงษ์ ผู้เสียหาย และวินจักรยานยนต์ 3 ราย คือนายไพศาล คำจุ้ย, นายสมนึก ชุ่มเย็น และนายสุวิทย์ ประจิตร มาทำการสอบถามซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยพูดคุยทำความเข้าใจกัน เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุความรุนแรงอีก
จากการสอบถามทราบว่า เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เวลาประมาณ 21.00 น.ที่ผ่านมา ทางผู้เสียหาย ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดรับคนโดยสารบริเวณหน้าวินปากซอยสุขุมวิท 47 โดยนายไพศาล วินจักรยานยนต์ได้บอกกับผู้เสียหายว่าอย่ารับผู้โดยสารบริเวณนี้ ขณะนั้นเองมีนายสุวิทย์ วินจักรยานยนต์อีกราย มายืนขวางที่หน้ารถของผู้เสียหาย จึงทำให้เกิดความกลัวจึงขับหนีออกไป ส่งผลให้นายสุวิทย์ ถูกเฉี่ยวบาดเจ็บเล็กน้อย
จากนั้นนายสมนึก นายไพศาล และนายสุวิทย์ จึงได้ขับขี่ตามไปจนทัน ขณะที่ผู้เสียหายจอดติดไฟแดงบริเวณแยกทองหล่อ ก่อนที่ทั้งสามจะลงไปขวางรถไว้ และนายสมนึก ได้สอบถามว่าทำไมจึงชนแล้วหนี แต่ทางผู้เสียหาย กลับนิ่งเฉย จึงโมโหลงมือชกต่อย โดยมีนายสุวิทย์ และนายไพศาล ยืนดูอยู่ จากนั้นได้มีประชาชนตะโกนให้แยกย้ายกัน จึงได้กลับมาขี่ จักรยานยนต์รับจ้างต่อตามปกติ กระทั่งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปยัง สน.ทองหล่อ
ด้านนายสมนึก กล่าวว่า วันเกิดเหตุผู้เสียหายได้มารับลูกค้าบริเวณหน้าวิน ซึ่งได้มีน้องในวินพยายามเข้าไปพูดคุยว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่ทางผู้เสียหายไม่สนใจ พร้อมขับรถออกไปก่อนชนรุ่นน้องในวิน อีกทั้งได้ขับรถหลบหนี ไม่มีการขอโทษ ตนเองจึงเกิดอารมณ์โมโห ก่อนได้ใช้มือตบเข้าที่ศรีษะประมาณ4-5 ครั้ง แต่โดนที่หมวกกันน็อค ก่อนมีรุ่นน้องในวินมาห้ามไว้ ยืนยันไม่มีการรุมทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใด ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนมองว่า ผู้ขับขี่แกร็บควรไปรับลูกค้าให้ห่างจากวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง เพื่อเป็นการให้เกียรติ ซึ่งกันและกัน
ขณะที่ พันตำรวจโท กล่าวว่า จากการเจรจาพูดคุยทั้งสองฝ่ายจบเป็นด้วยดี พร้อมทั้งได้จับมือขอโทษซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมดำเนินคดีกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยจะดำเนินคดีกับนายสมนึก ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และดำเนินคดีกับนายวรวิทย์ ในข้อหานำรถส่วนบุคคลมาให้บริการลักษณะรับจ้าง ใช้รถผิดประเภท ซึ่งทางตำรวจได้ร่างหลักการ ข้อตกลง และเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาเจรจา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก