กทม.ลั่น ไม่อยากถูกยึดเสื้อวิน3ปี อย่าขี่บนทางเท้า

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่เขตวัฒนา และ คลองเตย เป็นพื้นที่นำร่องเพื่อสำรวจความคิดเห็นของวินจักรยานยนต์รับจ้าง และ ประชาชน โครงการ"จุดกวดขัน จับปรับ รถจอด หรือ ขี่บนทางเท้า" และ มาตรการลงโทษวินจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้า โดยมีแนวคิดยึดเสื้อวินเป็นเวลา 3 ปี บริเวณซอยสุขุมวิท21 หน้าตลาดอโศก ใช้แบบสำรวจ สอบถามความคิดเห็น วินจักรยานยนต์ 200 ตัวอย่าง และประชาชน 100 ตัวอย่าง เพื่อเก็บข้อมูลเสียงสะท้อนกลับไปพิจารณา โดยตั้งใจจะสำรวจความเห็นให้ได้ 10,000 ตัวอย่าง

จากการล้อมวงพูดคุยกับวินจักรยานยนต์รับจ้าง บีทีเอส ส่วนใหญ่มองว่ามาตรการ ยึดเสื้อวิน 3 ปี เป็นโทษที่รุนแรง แต่ก็เห็นด้วยกับมาตรการนี้และพร้อมปฏิบัติตาม ขณะที่บางคน เสนอให้ใช้วิธีแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากวินเป็นผู้มีรายได้น้อย ขณะที่บางคนเสนอว่า ควรจะยึดรถเป็นเวลา 3 เดือน จะได้ผลกว่า โทษรุนแรงน้อยกว่า นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่า นอกจากวินจักรยานยนต์ที่ยึดเสื้อวิน3ปีแล้ว บุคคลอื่นๆ จะดำเนินการลงโทษอย่างไร ควรใช้มาตรการที่เท่าเทียมกันนาย เฉลิม ช่างทองมะดัน นายกสมาคมวินจักยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย บอกว่า ไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ การยึดเสื้อวิน 3ปี เหมือนลงโทษ ผู้ก่ออาชญากรรมรุนแรง ตัดอาชีพ เหมือนประหารชีวิต เป็นนโยบายที่ไม่เหมาะสม ไม่มีกฎหมายไหนลงโทษหนักขนาดนั้น การปรับเพิ่มขึ้นค่าปรับขึ้น 5000 บาท ยังพอรับได้กทม.ควรหันมามองตัวเองว่าจะดูแลประชาชน คน หรือ ถนน การขี่รถบนทางเท้ามันมีกฏหมายรองรับอยู่แล้ว แต่ กทม.ถึงกับจะไปตัดอาชีพ ตัดอนาคตนั้นไม่เห็นด้วย

"การปรับ5000ก็สูงแล้ว ขึ้นอยู่กับกรุงเทพมหานครทำอย่างจริงจังหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีวิ่งขึ้นบนทางเท้าตลอด แต่จะจับก็ต่อเมื่อมีประเด็น ส่วนนโยบายนำจับเหมือนไฟไหม้ฟาง วินจักรยานยนต์ที่เคยส่งภาพ แจ้งนำจับ ก็ไม่เคยได้รับเงิน จนไม่มีใครอยากจะส่ง"
ภาคสังคมยินดีให้ความร่วมมือ แต่เหมือนเป็นการหลอกลวงประชาชน ส่วนข้อจำกัดของเส้นลาดพร้าว มีทั้งรถติด และการก่อสร้าง กทม.ทำไมไม่ออกมาตรการบังคับรถเมล์ไม่ให้ซ้อนคัน และวิ่งในเลนซ้ายตามทางของตัวเอง ทำให้รถแทรกไม่ได้พอจอดนาน ประชาชนคนใช้วินที่รีบ ก็บอกให้ขึ้นถนน อยากให้ กทม.มองให้ครบทุกมิติ

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลัง รับฟังความคิดเห็นว่า วินส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนการลงโทษยึดเสื้อวินเป็นเวลา 3 ปี จะนำไปพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะโทษการยึดเสื้อวิน 3ปี ไม่ได้เพิ่งกำหนดขึ้นใหม่เป็นโทษที่ถูกประกาศของกรุงเทพมหานครมานานแล้ว ซึ่งหากไม่กระทำความผิด กรุงเทพมหานครก็จะไม่สามารถยึดเสื้อวินได้เลย ถ้าหากไม่อยากจะถูกยึดเสื้อวิน ก็ต้องไม่มีขี่บนทางเท้า
ส่วนกรณีที่สมาคมวินจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย ตั้งคำถามว่าโทษการปรับ 5 พันบาท ก็รุนแรงพออยู่แล้ว แต่ก็ กทม.ไม่บังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ทางเท้าอย่างจริงจัง โฆษกกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ที่ผ่านมาดำเนินการอย่างเข้มงวดจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. -17 ต.ค.2562 จับผู้ฝ่าฝืนได้ 24,511 ราย ตักเตือน 4,225 ราย เปรียบเทียบปรับ 18, 221ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินคดี

อีกหนึ่งข้อเสนอที่ กลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้างต้องการให้มองบริบทปัญหาให้รอบด้าน และความจำเป็น หรือสาเหตุที่ต้องขี่บนทางเท้า เช่นการจราจรที่ติดขัดเส้นลาดพร้าว รถเมล์สาธารณะ กีดขวาง จนไม่สามารถขับขี่ได้ ขณะที่การก่อสร้างกินพื้นผิวจราจรจากการสร้างรถไฟฟ้า โฆษกกรุงเทพมหานคร บอกว่า เวลานี้ขอแก้ปัญหาในส่วนของวินก่อนไม่ใช่หน้าที่ของกทม.เป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก
โดยหลังจากสำรวจความเห็น 50 เขตแล้ว จะนำข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารวินจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่มีกรมการขนส่งทางบกเป็นประธาน กทม.เป็นอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการต่อไป