กางสัญญา 'ไฮสปีด' เปิดสังคมตรวจสอบ

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุ จะมีการเปิดเผยร่างสัญญาและเอกสารแนบท้ายสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่าโครงการ 2.2 แสนล้านบาท หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือรฟท. ลงนามร่วมกับกลุ่มกิจการร่วมค้าเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้งและพันธมิตร หรือกลุ่มซีพี ล่าสุดจะมีการลงนามสัญญาในวันที่ 24 ต.ค. 2562 เวลา 13.30 น. ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจะเป็นประธาน 
ทั้งนี้ การเปิดเผยร่างสัญญาและเอกสารแนบท้ายสัญญานั้น เพื่อสร้างความโปร่งใส โดยเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับทราบทั้งหมด รวมถึงต้องทำความเข้าใจในหลายประเด็นที่คลาดเคลื่อนจากกระแสข่าวว่ามีการปรับสัญญาหลัก หรือกระแสข่าวเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ซึ่งยืนยันว่าไม่มี และสามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจนจากเอกสาร 
ส่วนกรณีที่เอกชนจะบอกเลิกสัญญาได้นั้น เป็นไปตามหลักปกติอยู่แล้ว ซึ่งในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)ยืนยันว่าไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะรัฐจะส่งมอบพื้นที่ให้ทันตามกำหนดเวลา
อย่างไรก็ตาม  โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะใช้หลักธรรมาภิบาลยึดหลักกฎหมาย ดำเนินการตามกรอบของข้อเสนอการร่วมลงทุน Request for Proposal (RFP) และดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และภาครัฐอย่างเคร่งครัด 
สำหรับการชำระเงินในส่วนที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ วงเงิน 149,650 ล้านบาท รัฐจะเริ่มจ่าย เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% และเริ่มเปิดให้บริการแล้ว โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละไม่เกิน 14,965 ล้านบาท เป็นเวลา 10 ปี