svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

คมนาคมถกความร่วมมือลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน EEC

21 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยเข้าพบ หารือความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนนและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ Ms. Heidi Gallant ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) และคณะเข้าพบ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม รวมทั้งหารือในประเด็นความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อลดความสูญเสียอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ และโอกาสทางธุรกิจของภาคเอกชนอเมริกันในประเทศไทยต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 21 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางถนนเป็นลำดับต้น ๆ เนื่องจากประเทศไทยมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนค่อนข้างสูง เป็นอันดับที่ 9 ของโลก มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 30 คนต่อประชากรแสนคน โดยมีเป้าหมายลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรแสนคน ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ศึกษาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุพบว่า มี 3 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่ 1) ผู้ขับ 2) ยานพาหนะ และ 3) สภาพถนน โดยได้เริ่มต้นโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนกับรถโดยสารสาธารณะ จัดตั้งจุด Checking point เพื่อตรวจคน ตรวจรถ และสภาพผู้ขับรถโดยสารระหว่างการให้บริการประชาชน เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2562 ถึงปัจจุบัน สามารถลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุกับรถโดยสารสาธารณะได้จาก 1.06 ครั้งต่อวัน เหลือ 0.4 ครั้งต่อวัน 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ไปตรวจเยี่ยมกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และมอบนโยบายให้เคร่งครัด ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ การนำระบบตัดคะแนนมาใช้ การตรวจสอบคุณสมบัติ ความพร้อมของรถที่มาจดทะเบียนหรือต่อภาษีรถประจำปี โดยเฉพาะรถโดยสาร ซึ่ง ขบ. ได้ติดตั้งระบบ GPS กับรถโดยสาร เพื่อติดตามพฤติกรรมการขับรถ และได้มอบให้ ขบ. ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำระบบดังกล่าวมาใช้กับรถส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยจะหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมว่าจะสามารถติดตั้งระบบ GPS มาพร้อมกับรถได้หรือไม่ แต่ต้องไม่สร้างภาระให้กับผู้ซื้อรถ ไม่กระทบกับสิทธิส่วนบุคคล รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมามีส่วนร่วม โดยสร้างแรงจูงใจหรือผลตอบแทนให้แก่ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎจราจรผ่านแอปพลิเคชั่นของ ขบ. 

นอกจากนี้พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากคนขับรถ 73% เกิดจากยานพาหนะไม่พร้อม 19% และการตัดหน้ากระชั้นชิด 13% ซึ่งกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างศึกษาการสร้างเกาะกลางถนนเพื่อลดการตัดหน้ากระชั้นชิด โดยใช้แบร์ริเออร์มาวางสำหรับถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป และใช้ Rubber buffer หรือยางพาราหุ้มแบร์ริเออร์คอนกรีต เพื่อกันแรงกระแทกในระดับความเร็ว 140 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะได้ผลการศึกษาภายใน 2 เดือน และจะส่งแบร์ริเออร์ดังกล่าวไปทดสอบประสิทธิภาพยังต่างประเทศ กรณีคนเดินเท้า รถจักรยานยนต์ หรือรถขนาดเล็ก กรมทางหลวงได้ศึกษาทางลอดหรือ Box culvert เพื่อให้สามารถข้ามผ่านเส้นทางที่มีการติดตั้งแบร์ริเออร์ได้ กรณีรถขนาดใหญ่จะต้องไปกลับบริเวณทางแยกหรือจุดกลับรถ คาดว่าต้นปี 2563 แนวคิดต่าง ๆ จะเริ่มแปรสู่การปฏิบัติต่อไป 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความก้าวหน้าตามแผน EEC ในส่วนที่กระทรวงคมนาคมเข้าไปเกี่ยวข้อง คือการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่จะลงนามในสัญญาวันที่ 24 ตุลาคม 2563 การก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นประมูล โดยจะดำเนินการตามที่ศาลวินิจฉัยและไม่ให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติเช่นเดียวกัน และศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผน และโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จภายในปี 2568 

นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนและเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ หาก AMCHAM มีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นใดให้สอบถามมายังกระทรวงคมนาคมได้โดยตรง และขอขอบคุณที่มาเข้าพบ รวมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทางกระทรวงคมนาคมพร้อมรับฟังความเห็นและจะประสานในรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไป ในการนี้ AMCHAM ได้นำภาคเอกชนซึ่งได้ดำเนินโครงการสร้างความปลอดภัยทางถนนร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อาทิ บริษัท 3 M Thailand และบริษัท Dow Chemical เข้าพบ เพื่อสานต่อความร่วมมือในอนาคตด้วย

logoline