"จตุพร" แนะภัยการค้าน่ากลัวกว่าภัยความมั่นคง

 ช่วงนี้บรรยากาศการเมืองบ้านเรายังอยู่ในสภาพ "อึมครึม" และยิ่งในยุคโซเชียลครองเมือง ก็มีกระแสข่าวหลายด้านเข้ามาให้คนไทยได้ลุ้นอยู่ตลอดขณะที่ความเคลื่อนไหวการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ก็มีเช่นกัน 
ล่าสุด ประธาน นปช. ได้ออกมาบอกว่า ตอนนี้ทุกฝ่ายในบ้านเมืองต้องร่วมมือกันนำพาประเทศให้รอด โดยเฉพาะภัยด้านการค้าที่น่ากลัวยิ่งกว่าการถูกคุกคามความมั่นคง 

 ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศว่า ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีภัยทางสงคราม มีแต่ภัยทางการค้า หากไม่มีการปรับตัวเราก็จะเสียเปรียบด้านการค้าอย่างมาก  เพราะประเทศใหญ่ๆในตอนนี้ไม่มีความแตกต่างกันในทางเศรษฐกิจ 
แม้ประเทศคอมมิวนิสต์ใหญ่ที่สุดอย่างประเทศจีน ก็เป็นคอมมิวนิสต์ในรูปแบบเศรษฐกิจทุนนิยม / เวียดนามก็เป็นทุนนิยมเช่นกัน รวมทั้งไม่แตกต่างจากประเทศสหรัฐที่เป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจทุนนิยม แต่วันนี้ไม่มีคอมมิวนิสต์กันแล้ว มีแต่ทุนนิยมจีน 
ฉะนั้น ภัยทางการค้าขายจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเกิดปัญหาว่า กองทัพจะเดินหน้าอย่างไร เมื่อไม่มีการสู้รบกัน

ประธาน นปช. ยังบอกอีกว่า ตนเองไม่ได้มีอะไรกับผู้บัญชาการทหารบก แม้หลายเรื่องจะไม่เห็นด้วยกับการออกมาพูดบรรยายที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้อยากตอบโต้ หากวันนั้นผู้บัญชาการทหารบก พูดเรื่องของการปกป้องสถาบัน และเรื่องรัฐไทยเป็นหนึ่งเดียวจะแบ่งแยกไม่ได้ รวมถึงหากพูดให้หลอมรวมหัวใจของคนไทยทั้งหมด ผลลัพธ์จะดีกว่านี้ ซึ่งจะได้แนวร่วมจากคนไทยกว่านี้ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเลยเถิดตอนนี้ทุกฝ่ายต้องปล่อยระวาง และไม่ควรออกมาต่อว่ากัน เพราะประเทศชาติเสียหายมากพอแล้ว ที่ผ่านมาเราทะเลาะกันมาพอแล้ว ทุกครั้งที่มีวิกฤตชาติ คนไทยได้ฝ่าฟันมาร่วมกันมาพอแล้ว และถ้าแต่ละฝ่ายยังคงเดินหน้ากันต่อ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กองทัพ พรรคการเมืองยังคงฝืนต่อไป ความทุกข์ของประชาชนจะยิ่งใหญ่มากขึ้น และนี่ก็คือมุมมองของประธาน นปช.ที่ทำการบรรยายพิเศษใน หัวข้อ "แผ่นดินของเราในมุมมองของจตุพร พรหมพันธุ์"